‘โชว์บิซ’ปรับแผนธุรกิจ หลังQ4รายได้วูบ-เสริมบริการอีเวนต์-การตลาด

13 พ.ย. 2559 | 11:00 น.
ผู้ประกอบการโชว์บิซเร่งปรับแผนพยุงธุรกิจ หลังไตรมาส 4 รายได้ทรุด “ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์” ประกาศเลื่อน 3 คอนเสิร์ตใหญ่ไปกุมภาพันธ์ปีหน้า พร้อมกับเลื่อนแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯออกไป 1 ปี เผยบางรายหันเหหาบริการอื่นทั้งที่ปรึกษาทางการตลาด อีเว้นต์

นายญาณกร อภิราชกมล กรรมการบริหาร บริษัท ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ จำกัด หรือ CI ผู้ดำเนินธุรกิจด้านอีเว้นต์ และผู้จัดงานคอนเสิร์ต Seoson of Love Song สวนผึ้ง และ Craft’n Roll Canival กาญจนบุรี ฯลฯ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ภาพรวมของธุรกิจโชว์บิซในปีนี้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่ไม่มีการจัดงานในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของการจัดคอนเสิร์ตต่างๆ ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ทำให้บริษัทต่างๆ ต้องเร่งปรับแผนรองรับ โดยบริษัทเองได้เลื่อนการจัดคอนเสิร์ตทั้ง 3 งานได้แก่ ซีซั่น ออฟ เลิฟ ซอง , คราฟ์ท แอนด์ โรล คานิวัล และคอนเสิร์ต EDM ซึ่งจะมีขึ้นในปลายปีนี้ออกไปเป็นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งเบื้องต้นส่งผลให้รายได้ของบริษัทหายไป 45 ล้านบาท และกำไรของบริษัทหายไป 15-20 ล้านบาท

“เบื้องต้นมีคอนเสิร์ตที่ยกเลิกไป 60-70% ขณะที่บางส่วนแก้ปัญหาด้วยการเลื่อนกำหนดจัดงานออกไปก่อน ผลกระทบที่บริษัทได้รับคือ ต้องปรับแผนการดำเนินงานในปีหน้าจากเดิมที่มีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในไตรมาส 3 ปี 2560 แต่อาจจะต้องเลื่อนออกไปอีก 1 ปี”

อย่างไรก็ดีเชื่อว่าในปีหน้า ธุรกิจจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เช่นเดียวกับผู้ให้การสนับสนุน ซึ่งส่วนใหญ่มีการพูดคุยกันแล้วและยังช่วยเหลือกัน

ทั้งนี้คอนเสิร์ตที่ได้รับผลกระทบมากสุดได้แก่ ซีซั่น ออฟ เลิฟ ซอง สวนผึ้ง เพราะเริ่มดำเนินการเตรียมการ เริ่มทำโปรดักชั่น รวมถึงมียอดจองบัตรเข้ามาแล้ว 60% ซึ่งหลังจากที่เลื่อนการจัดงานออกไปเป็นเดือนกุมภาพันธ์ ยังคงได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรต่างๆ อย่างดีเช่นเดียวกับ Craft’n Roll Canival กาญจนบุรี ที่จะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์เช่นกัน ส่วนคอนเสิร์ต EDM ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอน เพราะเป็นการรวมตัวของเหล่าศิลปินทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก ทำให้แต่ละคนต้องเคลียร์คิว เพื่อให้เกิดความลงตัวมากที่สุด

“ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เบื้องต้นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากสุดคือ ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งขณะนี้ประเมินว่าจะมีรายได้หายไปประมาณ 70% เพราะไตรมาส 4 ถือเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจ เมื่อยกเลิกงานต่างๆ ก็จะหายไปทั้งหมด”

ด้านผู้จัดงานคอนเสิร์ตอีกรายกล่าวว่า มีหลายบริษัทต้องปรับแผนงานใหม่เพื่อรองรับ ทั้งการเพิ่มรูปแบบการดำเนินงาน เช่น จากเดิมที่เป็นผู้จัดคอนเสิร์ต เมื่อไม่สามารถจัดได้ก็ปรับเปลี่ยนไปรับจัดอีเว้นต์แทน ซึ่งแม้ขณะนี้ธุรกิจอีเว้นต์เองก็ถูกยกเลิกไปจำนวนมาก แต่ก็เริ่มกลับมาดำเนินการได้บ้างแล้ว นอกจากนี้บางบริษัทเพิ่มการให้บริการในรูปแบบของที่ปรึกษาด้านการตลาด การจัดทำดิสเพลย์ เป็นต้น ส่วนบริษัทที่ไม่สามารถปรับหรือขยายธุรกิจได้ ก็มีบางรายที่ใช้บริการคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายด้วยการยุบแผนกที่ไม่ทำเงิน หรือทำรายได้ออกไป

“ธุรกิจบันเทิงได้รับผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะโชว์บิซเพราะถูกห้ามเบ็ตเสร็จ และเป็นธุรกิจที่ทำเงินในช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมาแม้ภาครัฐจะผ่อนปรนให้แต่ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้ และเชื่อว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ก็ไม่ต้องการดำเนินการเพราะต้องการถวายความอาลัย”

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ดีในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ธุรกิจบันเทิงจะเริ่มกลับมาดำเนินการได้มากขึ้น แต่เชื่อว่าธุรกิจโชว์บิซ จะยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะคิดว่ายังไม่เหมาะสม แต่ในบางคอนเสิร์ต เช่น คอนเสิร์ตต่างประเทศ จะเริ่มทำการแสดงได้ ซึ่งหากภาครัฐมีข้อกำหนดที่ชัดเจน ก็จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนงานได้ เพราะการจัดคอนเสิร์ตแต่ละครั้งจะต้องใช้เวลาเตรียมตัวนาน 3-6 เดือน

“เชื่อว่าจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ หลังจากที่รัฐบาลเริ่มผ่อนผันให้มีการจัดงานเทศกาลลอยกระทง แต่การจัดเทศกาลดังกล่าวก็ยังอยู่ในกรอบ ที่ต้องเหมาะสม พวกเราเองก็ไม่อยากที่จะจัดงานบันเทิงในช่วงนี้เพราะคิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่ควร แต่ถือเป็นสัญญาณที่ดี ที่รัฐบาลจะผ่อนผันในช่วงเวลาอื่นๆ ตามมาเพื่อให้ประชาชนได้ผ่อนคลายบ้างหลังจากที่ต้องโศกเศร้าจากความสูญเสียครั้งใหญ่”

อย่างไรก็ดี ในปี 2560 มองว่าภาพรวมของธุรกิจโชว์บิซ จะยังทรงตัว แม้ผู้จัดงานจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น จากที่เลื่อนการจัดงานจากปีนี้ แต่เชื่อว่าผู้ให้การสนับสนุนหรือสปอนเซอร์ต่างๆ จะมีปริมาณไม่มาก เพราะต่างหวั่นวิตกว่าจะได้รับผลกระทบจากความไม่เหมาะสม ขณะเดียวกันจากภาวะกำลังซื้อที่ลดลงของผู้บริโภค ทำให้มองว่าอาจจะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน

แต่ละปีจะมีงานโชว์บิซไม่ต่ำกว่า 100 งานทั้งจากศิลปินไทยและต่างชาติ โดย 50% จะจัดขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ส่งผลให้มีมูลค่าตลาดโดยรวมกว่า 1,000 ล้านบาท มีการเติบโตเฉลี่ย 10% โดยในปีที่ผ่านมาถือว่ามีการเติบโตมากหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง โดยในปีนี้พบว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ผู้จัดงานต่างประสบปัญหาด้านการสปอนเซอร์ หลังจากที่แบรนด์สินค้าต่างๆ มียอดขายที่ลดลง และมีการแข่งขันที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องกันมา ดังนั้นแม้จะมีผู้จัดงานคอนเสิร์ตมากขึ้น แต่ผู้จัดส่วนใหญ่ได้กำไรลดลง เพราะมีสปอนเซอร์ลดลงนั่นเอง

สำหรับธุรกิจโชว์บิซ จะมีทั้งการจัดคอนเสิร์ตทั้งในร่มและกลางแจ้ง โดยพบว่าในไตรมาส 4 คอนเสิร์ตที่จัดขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นคอนเสิร์ตกลางแจ้งหรือเอาท์ดอร์ มิวสิค เฟสติวัล โดยคอนเสิร์ตใหญ่ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักอย่างมากได้แก่ บิ๊กเมาท์เท่น , โอเวอร์โคลท , ซีซั่นส์ ออฟ เลิฟ ซอง , เสม็ด อิน เลิฟ เป็นต้น ซึ่งปีนี้พบว่า คอนเสิร์ตเหล่านี้ซึ่งส่วนใหญ่เริ่มดำเนินการจัดเตรียมพื้นที่ กำหนดรูปแบบงาน และโปรดักส์ชั่นไปแล้ว พร้อมกับเปิดให้จองบัตรแล้ว มีการยกเลิกและเลื่อนการจัดงานออกไปจำนวนมาก (ข้อมูลตามตารางประกอบ)

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,209 วันที่ 13 - 16 พฤศจิกายน 2559