สุชาติ สั่ง คพ. จับตาลักลอบทิ้งสารเคมี 24 ชม. พื้นที่ฉะเชิงเทรา ตรวจพบต้องสอบทันที

22 ธ.ค. 2568 | 05:27 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ธ.ค. 2568 | 05:52 น.

รองนายกฯ สุชาติ สั่ง คพ. จับตาลักลอบทิ้งสารเคมี 24 ชม. รุกสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อมฉะเชิงเทรา ตรวจพบต้องสอบทันที

KEY

POINTS

  • นายสุชาติ ชมกลิ่น สั่งการให้กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) จัดตั้งเครือข่ายเฝ้าระวังการลักลอบทิ้งสารเคมีในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราตลอด 24 ชั่วโมง และให้เข้าตรวจสอบทันทีหากพบการกระทำผิด
  • การสั่งการนี้มีสาเหตุจากสถานการณ์ลักลอบทิ้งกากของเสียในพื้นที่ EEC ที่ทวีความรุนแรงและซับซ้อนขึ้น โดยพบว่าเป็นการกระทำในลักษณะเครือข่ายขบวนการขนาดใหญ่
  • คพ. ได้ดำเนินการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายเฝ้าระวังในพื้นที่ โดยจัดอบรมให้ความรู้แก่หน่วยงานท้องถิ่นและอาสาสมัคร เพื่อให้สามารถตรวจสอบและรายงานสถานการณ์ได้อย่างรอบด้าน

 

 

นายสุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การลักลอบทิ้งกากของเสียและสารอันตรายในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

โดยเฉพาะจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งมีแนวโน้มทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น และพบการกระทำผิดในลักษณะเครือข่ายขบวนการขนาดใหญ่ จึงสั่งการให้กรมควบคุมมลพิษเร่งพัฒนาเครือข่ายเฝ้าระวังในพื้นที่ จับตาการลักลอบทิ้งสารเคมีตลอด 24 ชั่วโมง หากพบความผิดปกติให้เข้าตรวจสอบอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด

 

สุรินทร์ วรกิจธำรง

จากข้อมูลสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมา ปี 2566 พบการลักลอบทิ้งสารเคมีในพื้นที่หมู่ 9 ตำบลลาดกระทิง อำเภอสนามชัยเขต ซึ่งเจ้าหน้าที่ คพ. ได้ลงพื้นที่ติดตามและประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ต่อมาในปี 2567

พบการลักลอบทิ้งกากของเสียในพื้นที่หมู่ 9 ตำบลคู้ยายหมี อำเภอสนามชัยเขต ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำในพื้นที่เกษตรกรรม และในปี 2568 ตรวจพบการลักลอบฝังกลบกากอุตสาหกรรมในอำเภอแปลงยาวและอำเภอพนมสารคาม โดยขุดพบกากพิษสะสมมากกว่า 70,000 ตัน สะท้อนถึงความจำเป็นในการยกระดับการเฝ้าระวังอย่างจริงจัง

นายสุรินทร์ กล่าวว่า ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีฯ คพ. โดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 13 ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การพัฒนาศักยภาพเครือข่ายการเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมจากการลักลอบทิ้งกากของเสียและสารอันตราย จังหวัดฉะเชิงเทรา”

โดยมีกลุ่มเป้าหมายจากหน่วยงานปกครองอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทสจ.ฉะเชิงเทรา สสจ.ฉะเชิงเทรา และเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทสม.) จังหวัดฉะเชิงเทรา รวม 60 คน เพื่อเสริมสร้างทักษะในการตรวจสอบ เฝ้าระวัง และรายงานสถานการณ์สิ่งแวดล้อมได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที รวมถึงสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในระดับจังหวัดและท้องถิ่น

 

ในการประชุมได้ให้ความรู้ด้านมลพิษจากกากของเสียและสารอันตราย กฎหมายสิ่งแวดล้อมและการจัดการมลพิษ แนวทางการเฝ้าระวังการลักลอบทิ้งกากของเสียและสารอันตราย ตลอดจนสถานการณ์คุณภาพแหล่งน้ำสาธารณะ มลพิษทางน้ำ และคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้าน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานและรับมือกับปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการลักลอบทิ้งกากของเสียและสารอันตราย หรือได้รับผลกระทบจากคุณภาพสิ่งแวดล้อม สามารถแจ้งสายด่วนกรมควบคุมมลพิษ โทร. 1650 หรือแจ้งผ่าน Traffy Fondue (ทราฟฟี่ฟองดูว์) ทาง LINE Official Account @traffyfondue ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ลักลอบทิ้งกากของเสียและสารอันตรายในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)