เซเว่นฯมาเลย์รุกออนไลน์ ใช้สาขาเป็นจุดรับสินค้า-แนวโน้มนิยมร้านสะดวกซื้อพุ่ง

11 พ.ย. 2559 | 12:00 น.
บริษัท 7-อีเลฟเว่น มาเลเซียฯ รุกทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ให้บริการล็อกเกอร์ที่ร้านสาขา เป็นจุดรับสินค้าสำหรับผู้ค้าออนไลน์ ผู้ซื้อรับของได้ที่สาขาใกล้บ้าน24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด เผยแนวโน้มความนิยมร้านสะดวกซื้อในมาเลเซียพุ่ง

หนังสือพิมพ์เดอะสตาร์ รายงานอ้างคำบรรยายของนาย แกรี่ บราวน์ (Gary Brown) ประธานบริหารบริษัท 7-อีเลฟเว่น มาเลซีย โฮลดิ้ง ในงานการประชุมเอเชียแปซิฟิกรีเทลคองเกรสจัดขึ้นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า บริษัท ตัดสินใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในระบบนิเวศน์ของการค้าแบบอี-คอมเมิร์ซ ซึ่งเป็นธุรกิจที่กำลังเร่งตัวขึ้นในมาเลเซีย

นายบราวน์ กล่าวว่า 7-อีเลฟเว่น มาเลย์ จะให้บริการเป็นจุดรับสินค้าที่มีการสั่งซื้อออนไลน์ โดยผู้ซี้อสามารถรับสินค้าได้ที่ร้านเซเว่นฯ ใกล้บ้าน 24 ชั่วโมงทุกวันตลอดปี โดยเมื่อสินค้ามาถึงร้านแล้ว ผู้สั่งซื้อจะได้รับข้อมูลและรหัสลับเฉพาะบุคคลเพื่อการรับสินค้า

นายใหญ่ 7-อีเลฟเว่น มาเลย์ ระบุว่าการเปิดบริการจุดรับสินค้า ของเซเว่นฯมาเลย์ เป็นไปตามนโยบายการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้ามากที่สุด และเป็นการพัฒนาให้ร้านเซเว่นฯมีพื้นที่นำเสนอสินค้าที่ไม่จำกัดอยู่เฉพาะพื้นที่ในร้านเท่านั้น โดยก่อนหน้านี้ร้านเซเว่นฯในมาเลย์ได้เพิ่มบริการการชำระเงินบิลที่หน้าเคาน์เตอร์ ด้วยซึ่งเป็นการขยายตัวออกจากแนวธุรกิจดั้งเดิม

เดอะสตาร์ ระบุว่า บริษัท 7-อีเลฟเว่นมาเลเซีย เข้าตลาดหลักทรัพย์เบอร์ซามาเลเซียในปี 2557 โดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือนายตัน ศรี วินเซนต์ ตัน ชี ยูน (Tan Sri Vincent Tan Chee Yioun) มหาเศรษฐีเจ้าของกลุ่มธุรกิจเบอร์จายาของมาเลเซีย เจ้าของสโมสรฟุตบอลคาร์ดีฟซิตี้ของอังกฤษ

ล่าสุด มีรายงานว่า เซเว่นฯ มาเลย์ มีร้านสาขารวม 2,050 ร้านทั่วประเทศ โดยเป็นสาขาที่เปิดอยู่ในศูนย์การค้า 100 ร้าน และมีแผนขยายตัวอย่างรดเร็ว โดยนายบราวน์กล่าวว่าจะเปิดสาขาใหม่ 200 ร้านต่อปีในช่วง 10 ปีข้างหน้า
เดอะสตาร์ระบุว่า เซเว่นฯ ลงทุน 80-90 ล้านริงกิต (ประมาณ 702 – 790 ล้านบาท) ต่อปี เพื่อเปิดร้านใหม่ 500 แห่ง และปรับปรุงร้านเก่าอีก 500 แห่งในช่วง 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา

สำหรับนายบราวน์กล่าวว่า สาขาเซเว่นฯ ที่เปิดอยู่ในศูนย์การค้าจะมีจำนวนมากเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่และส่วนใหญ่จะเปิด 12 ชั่วโมง ขณะที่เซเว่นฯ ที่อยู่ในชุมชน จะเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง โดยบริษัทสนใจที่จะขยายสาขาในศูนย์การค้าให้มากขึ้น เนื่องจากลูกค้าไม่ชอบเดินไกลและคนมาเลเซีย ชอบเดินห้าง การมีสาขามาก ๆ ในห้างจะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทได้ดี

เดอะสตาร์รายงานว่าเซเว่นฯ มาเลเซียนอกจากจะเพิ่มบริการจ่ายบิลที่เคาน์เตอร์ ยังให้บริการเติมเงินโทรศัพท์และเมื่อเร็วนี้ ได้เพิ่มพื้นที่นั่งในร้านสำหรับดื่มกาแฟ โดยนายบราวน์ กล่าวว่า ‘การถือถ้วยกาแฟร้อน ๆ และเดินกินไม่สะดวกสำหรับลูกค้า’

ทางด้านยอดจำหน่ายของเซเว่นฯ มาเลเซีย เดอะสตาร์ระบุว่า ในปีพ.ศ. 2558 บริษัทมีรายได้รวม 2,010 ล้านริงกิต(ประมาณ 17,643 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 6 % เมื่อเทียบกับรายได้ในปี 2557 มีกำไรในสัดส่วน 3 % ของรายได้รวมซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับธุรกิจการค้าที่มีการขายสินค้าในปริมาณสูง โดยยอดรายได้ที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการขยายสาขายเฉลี่ย ที่ 200 สาขาต่อปี

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,208 วันที่ 10 - 12 พฤศจิกายน 2559