G-Token พลิกโฉมการระดมทุนรัฐ สะพานเชื่อมนักลงทุนยุคใหม่

แม้ว่า G-Token จะไม่ใช่คริปโตเคอร์เรนซี แต่ยังถือเป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพในการเชื่อมโยงระหว่างการเงินแบบดั้งเดิมและสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน  การเปิดให้ประชาชนจองซื้อ G-Token ภายใน 2 เดือนข้างหน้านั้นถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่ที่อาจเริ่มต้นจากการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลแล้วมีโอกาสกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์แบบดั้งเดิม เช่น หุ้นหรือพันธบัตร ซึ่งเป็นการเพิ่มความหลากหลายในการลงทุนและกระจายความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

G-Token หรือ Government Token คือโทเคนดิจิทัลที่ออกโดยกระทรวงการคลังของรัฐบาลไทย ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือการระดมทุนรูปแบบใหม่ที่รัฐบาลใช้กู้เงินจากประชาชนผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยเป็นส่วนหนึ่งของหนี้สาธารณะ ไม่ใช่การพิมพ์เงินใหม่ โดยล็อตแรกตั้งเป้าระดมทุน 5,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเปิดให้ประชาชนจองซื้อภายในเดือนพฤศจิกายน 2568

สถานะทางกฎหมายของ G-Token

G-Token จัดเป็น “โทเคนดิจิทัล” ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ปี 2561 ไม่ใช่คริปโทเคอร์เรนซี ปัจจุบันมีผู้ให้บริการในระบบตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของไทยที่พร้อมรองรับแล้วประมาณ 7-8 ราย

จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล  G-Token ถูกมองว่าเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกการเงินเก่าและใหม่ เป็นการสร้างความเข้าใจและเปิดโอกาสให้กับนักลงทุนทั้ง 2 ฝั่ง โดยเฉพาะการเปิดให้มีการซื้อขาย G-Token ในตลาดรองสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะช่วยเพิ่มความโปร่งใสและความมั่นคงในกระบวนการลงทุน

 ในด้านเทคนิคการเลือกใช้บล็อกเชนในการออก G-Token ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญในการกำหนดความสะดวกในการใช้งานและความสามารถในการรองรับการซื้อขายในตลาดรอง โดยการเลือกใช้บล็อกเชนที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อกับหลายๆ แพลตฟอร์มจะช่วยให้การออนบอร์ดลูกค้าทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในการสร้างประสบการณ์การลงทุนที่ไร้รอยต่อสำหรับผู้ถือ G-Token

การสนับสนุนจากผู้ให้บริการ ICO Portal และผู้ประกอบการในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทยก็เป็นอีกส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการนี้ไปข้างหน้า โดยการใช้โครงสร้างที่ครอบคลุมและพร้อมรองรับการซื้อขาย G-Token จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ให้กับแพลตฟอร์มต่างๆ และสร้างความเชื่อมั่นในระบบการเงินดิจิทัลของประเทศ

แม้ว่า G-Token จะเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุนได้ง่ายขึ้น แต่ก็ยังมีหลายประเด็นที่ต้องพิจารณาต่อไป เช่น การจ่ายผลตอบแทนและการจัดการกับโทเคนเมื่อครบกำหนดอายุ ซึ่งอาจจะต้องมีการปรับปรุงหรือออกแบบเพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานและข้อกำหนดทางการเงิน

อย่างไรก็ตามหน่วยงานกำกับดูแลการเงินอย่างธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. มองว่ารัฐบาลควรให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัย และ ใช้ G-Token เป็นเครื่องมือการระดมทุน โดยไม่อยากเห็นการระดมทุนผ่าน G-Token ว่าเป็นเรื่องของการนำมาใช้ชำระเงิน เนื่องจากมีความเสี่ยง

การเปิดตัว G-Token นับเป็นการเริ่มต้นที่น่าสนใจในการส่งเสริมการลงทุนในยุคดิจิทัลและการสนับสนุนระบบเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยในระยะยาว ซึ่งน่าจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการเงินของประเทศในอนาคต

วิเคราะห์ หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,097 วันที่ 18 - 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568