หลังจากรัฐบาลไฟเขียวการออก โทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (Government Token : G-Token) ภายใต้ชื่อ “ไทยแลนด์ดิจิทัลโทเคน” เป็นครั้งแรก เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการออมการลงทุนให้กับประชาชนใหม่ และเป็นการเพิ่มเครื่องมือในการระดมทุนของรัฐบาล ซึ่งเบื้องต้นจะมีวงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลัง คาดว่าจะออกมาได้ภายใน 1-2 เดือนนี้
ฐานเศรษฐกิจขอพาไปทำความรู้จักกับรูปแบบการระดมทุนแบบใหม่ผ่าน G-Token แบบเจาะลึกในรายละเอียด ดังนี้
Government Token หรือ G-Token คือโทเคนดิจิทัลที่ออกโดยรัฐบาลไทยผ่านกระทรวงการคลัง เป็นรูปแบบใหม่ของการระดมทุนภาครัฐที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
G-Token ถือเป็นนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ของประเทศไทย โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติการออกโทเคนดิจิทัลของรัฐบาลในวงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มออกได้ภายใน 1-2 เดือน
G-Token มีลักษณะคล้ายกับพันธบัตรรัฐบาล แต่อยู่ในรูปแบบดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิในการได้รับชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด
การออก G-Token อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายสำคัญ 2 ฉบับ คือ
G-Token มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลแบบเดิม ดังนี้
ตามที่กระทรวงการคลังได้กำหนดไว้ ผู้มีสิทธิซื้อ G-Token ได้แก่
การลงทุนใน G-Token สามารถทำได้ผ่านช่องทางต่อไปนี้
ผู้ถือ G-Token จะได้รับสิทธิดังต่อไปนี้
กระทรวงการคลังจะกำหนดหลักเกณฑ์การชำระดอกเบี้ยและการใช้เงินตาม G-Token คือ
G-Token - จะมีรูปแบบเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล โดยการเข้าถึงสามารถซื้อผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ขณะที่การซื้อขายในตลาดรอง สามารถซื้อผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ส่วนมูลค่าการลงทุนขั้นต่ำ อาจกำหนดให้ต่ำลงเพื่อให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงได้ ซึ่งความคล่องตัวของ G-Token จะมีความคล่องตัวสูง และสามารถซื้อขายได้ง่าย
พันธบัตรรัฐบาลแบบเดิม - จะมีรูปแบบเป็นเอกสารหรือระบบไร้ใบหลักทรัพย์ โดยการเข้าถึงสามารถซื้อผ่านธนาคารพาณิชย์หรือตัวแทนจำหน่าย ส่วนการซื้อขายในตลาดรองสามารถซื้อขายผ่านตลาดตราสารหนี้ได้ โดยมักมีมูลค่าขั้นต่ำค่อนข้างสูง และอาจมีความคล่องตัวน้อยกว่า G-Token
G-Token มีความปลอดภัยในการลงทุนเทียบเท่ากับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล เนื่องจากเป็นการกู้เงินโดยกระทรวงการคลัง ซึ่งได้รับการค้ำประกันโดยรัฐบาลไทย
ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านสินทรัพย์ดิจิทัลมากนัก เพียงแค่สามารถใช้งานแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ให้บริการซื้อขาย G-Token ได้ ซึ่งผู้ให้บริการมักจะมีคำแนะนำสำหรับผู้ใช้งานใหม่
กระทรวงการคลังจะมีการประกาศข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับกำหนดการออก G-Token ผ่านช่องทางการสื่อสารของกระทรวงและสื่อต่างๆ นอกจากนี้ ผู้ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตก็จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบเช่นกัน
รายละเอียดเกี่ยวกับภาษีจะถูกระบุในหนังสือชี้ชวนของ G-Token โดยทั่วไปแล้ว ดอกเบี้ยที่ได้รับจากการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐมักจะมีการปฏิบัติทางภาษีเช่นเดียวกับพันธบัตรรัฐบาลแบบเดิม แต่อาจมีรายละเอียดเฉพาะสำหรับ G-Token ที่ต้องติดตาม
G-Token ถือเป็นนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ของประเทศไทยที่ผสมผสานเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับการระดมทุนของภาครัฐ เปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐได้ง่ายขึ้น
การออก G-Token ไม่เพียงแต่จะช่วยให้รัฐบาลมีช่องทางใหม่ในการระดมทุน แต่ยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงินดิจิทัลของประเทศอีกด้วย นักลงทุนที่สนใจควรติดตามข้อมูลจากกระทรวงการคลังและสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการลงทุนใน G-Token ในอนาคตอันใกล้นี้