เบื้องลึก รัฐบาลดัน “ไทยแลนด์ดิจิทัลโทเคน” ออก G-Token 5 พันล้าน

13 พ.ค. 2568 | 08:54 น.

ผ่าเบื้องลึกรัฐบาลผลักดัน “ไทยแลนด์ดิจิทัลโทเคน” โดยเป็นการระดมทุนผ่าน G-Token วงเงินเบื้องต้น 5,000 ล้านบาท เช็คข้อมูลเชิงลึกที่มาที่ไปก่อนจะออกมามีผลบังคับใช้

หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 มีมติสำคัญ หลังอนุมัติวิธีการกู้เงินตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ โดยการออกโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (Government Token : G-Token) โดยอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการออกโทเคนดิจิทัล พ.ศ. .... วงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท คาดว่าจะออกมาได้ภายใน 1-2 เดือนนี้นั้น

จากการตรวจสอบข้อมูลพบรายละเอียดเกี่ยวกับเบื้องลึก ที่มาที่ไปของการตัดสินใจของรัฐบาลในการออก “ไทยแลนด์ดิจิทัลโทเคน” ผ่าน G-Token เป็นครั้งแรก เพื่อระดมทุนจากรายย่อย โดยกระทรวงการคลัง ระบุข้อมูลเบื้องหลังของเรื่องว่า 

ที่ผ่านมา ครม. เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2567 อนุมัติการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อการก่อหนี้ใหม่ การกู้และการนำไปให้กู้ต่อ การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ และการค้ำประกันเงินกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจ ตามมาตรา 7 แห่งพ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548

รวมถึงมาตรา 7 แห่งพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2541 และมาตรา 7 แห่งพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนา ระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง พ.ศ. 2545

รวมทั้งขออนุมัติการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจเพื่อลงทุนในโครงการพัฒนาและปรับโครงสร้างหนี้ตามกฎหมายจัดตั้งของรัฐวิสาหกิจ ภายใต้กรอบวงเงินของแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2568 และให้กระทรวงการคลัง เป็นผู้พิจารณา การกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน การค้ำประกัน และการบริหารความเสี่ยงในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น 

ทั้งนี้ หากรัฐวิสาหกิจ สามารถดำเนินการกู้เงินได้เอง ก็ให้สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังเสนอว่า มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องกู้เงินในรูปแบบโทเคนดิจิทัล ภายใต้กรอบวงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2568 ที่ครม. มีมติอนุมัติ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ตามข้อ 2 ประกอบกับมาตรา 10 วรรคหนึ่ง แห่งพ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 กำหนดให้ครม.เป็นผู้พิจารณาอนุมัติวิธีการกู้เงิน ของกระทรวงการคลัง

ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง พิจารณาแล้วเห็นว่า การออกโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (G-Token) เป็นการนำนวัตกรรมทางการเงินเกี่ยวกับการระดมทุนรูปแบบใหม่มาประยุกต์ใช้กับการกู้เงินของกระทรวงการคลัง โดยกระทรวงการคลัง ได้ดำเนินการยกร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการออกโทเคนดิจิทัล พ.ศ. ....

สาระสำคัญให้อำนาจคลังออกโทเคนดิจิทัล

โดยมีสาระสำคัญเป็นการให้อำนาจกระทรวงการคลังออกโทเคนดิจิทัล โดยวงเงินกู้ตามกรอบการกู้เงิน เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณด้วยวิธีการเสนอขายให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยตรงผ่านผู้ที่เกี่ยวข้อง ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ได้แก่ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนิติบุคคลอื่นที่สามารถรับคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ ดังนี้

1.กำหนดให้กระทรวงการคลัง ออกโทเคนดิจิทัล ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยวงเงินกู้ตามกรอบการกู้เงินเพื่อขดเชยการขาดดุลงบประมาณ ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ

2.กำหนดให้กระทรวงการคลัง อาจมอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย ว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นตัวแทนของกระทรวงการคลังในการดำเนินการด้านต่าง ๆ ได้แก่ ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล มีหน้าที่ดำเนินการด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำและการออกโทเคนดิจิทัล นายทะเบียน หรือผู้รับฝากโทเคนดิจิทัล เป็นต้น

3.กำหนดให้กระทรวงการคลัง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการเสนอขายโทเคนดิจิทัลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยตรงผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้า ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนิติบุคคลอื่นที่สามารถรับคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ตามกฎหมาย ที่เกี่ยวข้อง 

รวมทั้งความเหมาะสมของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเสนอขายโทเคนดิจิทัลนั้น เช่น กำหนดให้กระทรวงการคลัง จัดทำหนังสือชี้ชวนเผยแพร่เป็นการทั่วไปอย่างน้อยต้องกำหนดเกี่ยวกับวงเงิน อายุ อัตราดอกเบี้ย และเงื่อนไขการโอน และกำหนดประเภทผู้มีสิทธิซื้อ ได้แก่ บุคคลธรรมดา นิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร หรือนิติบุคคลอื่นตามที่กระทรวงการคลัง ประกาศกำหนด 

4.กำหนดให้กระทรวงการคลัง กำหนดหลักเกณฑ์การชำระดอกเบี้ย และการใช้เงินตามโทเคนดิจิทัล โดยให้กระทรวงการคลัง หรือนิติบุคคลอื่นใดที่กระทรวงการคลังมอบหมาย โอนเงินให้แก่ผู้ถือโทเคนดิจิทัลหรือผู้รับตามที่นายทะเบียนกำหนด ทั้งนี้ ตามที่ได้รับแจ้งจากนายทะเบียน

5.กำหนดให้การโอนโทเคนดิจิทัลดำเนินการตามวิธีการที่ศูนย์ซื้อขาย สินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนิติบุคคลอื่นใดที่สามารถรับคำสั่งซื้อขาย สินทรัพย์ดิจิทัลได้ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้โอนได้เปิดบัญชีเก็บรักษาโทเคนดิจิทัลของตนไว้ โดยให้มีผลสมบูรณ์เมื่อผู้โอนนั้นได้บันทึกการรับโอนโทเคนดิจิทัลเข้าไปในบัญชีของผู้รับโอนแล้ว 

คลังขอความเห็น สำนักงาน ก.ล.ต.

อย่างไรก็ตามกระทรวงการคลัง ได้ขอความเห็นสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยสำนักงาน ก.ล.ต. เห็นว่า หากกระทรวงการคลัง พิจารณาได้ว่าการกู้เงิน โดยวิธีการออก G-Token ไม่ใช่การออกตราสารหนี้ ซึ่งไม่เป็น “หลักทรัพย์” ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 แล้ว ก็สามารถดำเนินการภายใต้พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจ สินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561

โดย G-Token มีการกำหนดสิทธิให้ผู้ถือมีสิทธิได้รับชำระคืนเงินต้น และดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่ กค. กำหนด จึงมีลักษณะเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือในการเข้าร่วมลงทุนในโครงการหรือกิจการใด ๆ หรือกำหนดสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการหรือสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง และเข้าข่ายเป็นโทเคนดิจิทัล ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 

ต้องเป็นไปตามพระราชกำหนดดังกล่าวและกฎเกณฑ์ที่ออกโดยคณะกรรมการ ก.ล.ต. และสำนักงาน ก.ล.ต. ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. จะเสนอแนวทางในการกำกับดูแลที่เหมาะสมและสอดคล้องกับลักษณะ ของ G-Token ให้คณะกรรมการ ก.ล.ต. พิจารณาต่อไป