ครั้งแรกของโลก “สบน.” จ่อออก G-Token 5 พันล้าน ภายในก.ค.นี้

13 พ.ค. 2568 | 08:07 น.
อัปเดตล่าสุด :13 พ.ค. 2568 | 08:14 น.

สบน.จ่อออก G-Token วงเงินไม่เกิน 5 พันล้านบาท ภายในก.ค.นี้ ยันไม่ใช่กู้เงินพิเศษ เป็นการระดมทุนกู้ชดเชยขาดดุลปกติ ลดต้นทุนในการดำเนินการ

นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการออกโทเคนดิจิทัล พ.ศ. .... เพื่อให้กระทรวงการคลังสามารถออกและเสนอขายโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (Government Token: G-Token) ซึ่งตั้งเป้าหมายระดมทุนครั้งแรกภายในเดือนก.ค.68 วงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท

นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.)

“ยืนยันว่าการออก G-Token ไม่ใช่การกู้เงินพิเศษ เพื่อดำเนินการแจกเงินดิจิทัล แต่เป็นการกู้เงิน ภายใต้การชดเชยขาดดุลงบปกติ โดย G-Token เป็นการกู้เงินอีกหนึ่งวิธีใหม่ของรัฐบาล ดำเนินการภายใต้พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล จะช่วยลดต้นทุนการดำเนินการ จากเดิมที่ออกพันธบัตรมีค่าธรรมเนียมดำเนินการจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 0.03% ของกรอบวงเงินจำหน่าย”

ทั้งนี้ G-Token จะดำเนินการเฉพาะภายใต้กรอบพันธบัตรออมทรัพย์ออมทรัพย์ ซึ่งจะแบ่งวงเงินบางส่วนมาใช้ในการระดมทุน ซึ่งในปีงบประมาณนี้ เราวางเป้าหมายระดมทุน 1 แสนล้านบาท เท่าปีงบประมาณ 67 โดยขณะนี้มีการออกพันธบัตรออมทรัพย์ไปแล้ว 3.5 หมื่นล้านบาท เหลือกรอบวงเงินอยู่ 6.5 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม การกู้เงินนั้นจะดูตามความจำเป็นในการใช้จ่าย

นายพชร กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปเราจะทำงานร่วมกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งจะเป็นผู้กำหนดรายละเอียด G-Token โดยจะมีการจำหน่ายผ่านบริษัทหลักทรัพย์ และศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Exchange) ถือเป็นครั้งแรกของโลก ที่รัฐบาลดำเนินการระดมทุนผ่านดิจิทัล Token ไปยังประชาชนโดยตรง

“ผลตอบแทนของ G-Token จะเทียบเคียงดอกเบี้ยพันธบัตรออมทรัพย์ ยืนยันว่า จะไม่กระทบ Yield curve ของประเทศ เนื่องจากเราไม่ได้ระดมทุนขนาดใหญ่ วงเงินที่อยู่ในระบบไม่ยาว อยู่ระหว่างพิจารณาการถือครองสูงสุดไม่เกิน 1 ปี อย่างไรก็ตาม G-Token ผู้ซื้อตลาดแรก สามารถขายเปลี่ยนมือได้เลยตั้งแต่วันแรกที่ซื้อ ไม่ได้กำหนดระยะเวลาการถือครองก่อนเปลี่ยนมือเหมือนกับพันธบัตรออมทรัพย์”

ทั้งนี้ G-Token เป็นเครื่องมือการระดมทุนรูปแบบใหม่ มีความโปร่งใส สนับสนุนให้ประชาชนมีโอกาสและทางเลือกในการกระจายการลงทุนได้หลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการสนับสนุนการพัฒนาตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศให้เป็นแหล่งระดมทุนที่ยั่งยืน ส่งเสริมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางทางการเงินในระดับภูมิภาคของประเทศ