ก.ล.ต. จี้ NRF เร่งแก้ไขงบการเงิน ไตรมาส 1-2/2568 หลังพบรอยรั่ว

18 พ.ย. 2568 | 11:03 น.
อัปเดตล่าสุด :18 พ.ย. 2568 | 11:03 น.

ก.ล.ต. แจ้งให้ NRF แก้ไขงบการเงินประจำปี 2567 (ฉบับแก้ไข) งวดไตรมาส 1/2568 (ฉบับแก้ไข) และงวดไตรมาส 2/2568 ภายในวันที่ 18 ธันวาคม 2568 นี้

KEY

POINTS

  • ก.ล.ต. สั่งให้ NRF แก้ไขงบการเงินสำหรับปี 2567 และไตรมาส 1-2 ปี 2568 เนื่องจากพบข้อผิดพลาด
  • สาเหตุหลักเกิดจากผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไขต่องบการเงิน จากปัญหาการบันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือของบริษัทย่อย (โบทานี เพ็ทแคร์) ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
  • ข้อผิดพลาดคือการปรับปรุงผลต่างจากการตรวจนับสินค้าคงเหลือทั้งหมดเข้าบัญชีต้นทุนขาย โดยไม่ได้ปันส่วนเข้าบัญชีสินค้าสำเร็จรูปให้ถูกต้อง
  • NRF ต้องนำส่งงบการเงินฉบับแก้ไขที่ผ่านการตรวจสอบแล้วต่อ ก.ล.ต. และเปิดเผยต่อสาธารณชนภายในวันที่ 18 ธันวาคม 2568

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งให้ บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF แก้ไขงบการเงินประจำปี 2567 (ฉบับแก้ไข) งวดไตรมาส 1 ปี 2568 (ฉบับแก้ไข) และงวดไตรมาส 2 ปี 2568 และให้นำส่งงบการเงินฉบับแก้ไข ที่ผ่านการตรวจสอบและสอบทานจากผู้สอบบัญชีต่อ ก.ล.ต. พร้อมทั้งเปิดเผยงบการเงินดังกล่าวต่อสาธารณชนผ่านระบบ SETLink ภายในวันที่ 18 ธันวาคม 2568

สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้แจ้งให้ NRF แก้ไขงบการเงินประจำปี 2567 และงวดไตรมาส 1 ปี 2568 เกี่ยวกับการบันทึกบัญชีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท Kairous Asia Limited (KAL) ซึ่งไม่เข้าคำนิยามของการเป็นธุรกิจตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินที่เกี่ยวข้อง

รวมทั้งการพิจารณาการด้อยค่าของสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทย่อยราย บริษัท รีเจนเนอเรชั่น แคปปิตอล จำกัด (RCL) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นทางอ้อมของ KAL ในงบการเงินเฉพาะกิจการ ต่อมา NRF ได้แก้ไขรายการดังกล่าวและนำส่งงบการเงินประจำปี 2567 (ฉบับแก้ไข) และงวดไตรมาส 1 ปี 2568 (ฉบับแก้ไข) แล้ว รวมทั้งนำส่งงบการเงินงวดไตรมาส 2 ปี 2568 

ทั้งนี้ ผู้สอบบัญชีของ NRF ได้รายงานอย่างมีเงื่อนไขต่องบการเงินประจำปี 2567 (ฉบับแก้ไข) งวดไตรมาส 1 ปี 2568 (ฉบับแก้ไข) และงวดไตรมาส 2 ปี 2568 เกี่ยวกับรายการปรับปรุงผลแตกต่างจากการตรวจนับสินค้าคงเหลือของบริษัทย่อยราย บริษัท โบทานี เพ็ทแคร์ จำกัด ในงบการเงินงวดดังกล่าว เนื่องจากผู้สอบบัญชีของ NRF ไม่สามารถระบุจำนวนผลกระทบที่เป็นตัวเงินต่อรายการปรับปรุงสินค้าคงเหลือ และต้นทุนขาย

รวมถึงบัญชีอื่นที่เกี่ยวข้องได้ เนื่องจากกลุ่มบริษัทยังไม่สามารถหาสาเหตุของผลแตกต่างจากการกระทบยอดสินค้าคงเหลือในส่วนของปริมาณได้ทั้งหมด รวมถึงยังไม่ได้จัดทำเอกสารการคำนวณต้นทุนต่อหน่วยใหม่ที่สะท้อนต้นทุนจริง

โดยจากการตรวจนับสินค้าคงเหลือของบริษัทย่อยดังกล่าว กลุ่มบริษัทและผู้ตรวจสอบอิสระเป็นกรณีพิเศษ พบผลแตกต่างจากยอดสินค้าคงเหลือที่ตรวจนับได้กับยอดคงเหลือในบัญชี โดย NRF ได้ปรับปรุงผลแตกต่างจากการตรวจนับสินค้าคงเหลือในงบการเงินประจำปี 2567 (ฉบับแก้ไข) งวดไตรมาส 1 ปี 2568 (ฉบับแก้ไข) และงวดไตรมาส 2 ปี 2568 แล้ว

อย่างไรก็ตาม ผลแตกต่างบางส่วนเกิดจากการวัดมูลค่าของต้นทุนสินค้าสำเร็จรูปและสินค้ากึ่งสำเร็จรูปโดยใช้วิธีต้นทุนมาตรฐานที่มีผลแตกต่างจากต้นทุนจริง ดังนั้น การปรับปรุงผลต่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดเข้าบัญชีต้นทุนขาย โดยไม่ได้มีการปันส่วนเข้าบัญชีสินค้าสำเร็จรูป ประกอบกับการใช้ต้นทุนต่อหน่วยจากข้อมูลในระบบบัญชีก่อนการปรับปรุงผลต่างในการคำนวณรายการปรับปรุงดังกล่าว จึงไม่เป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน

ก.ล.ต. จึงแจ้งให้ NRF แก้ไขงบการเงินในประเด็นดังกล่าวเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยให้ NRF แก้ไขงบการเงินประจำปี 2567 (ฉบับแก้ไข) งวดไตรมาส 1 ปี 2568 (ฉบับแก้ไข) และงวดไตรมาส 2 ปี 2568 และให้นำส่งงบการเงินฉบับแก้ไขที่ผ่านการตรวจสอบและสอบทานจากผู้สอบบัญชีต่อ ก.ล.ต.

รวมถึงรายงานการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 พร้อมทั้งเปิดเผยงบการเงินและรายงานฉบับที่แก้ไขต่อสาธารณชนผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลบริษัทจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ระบบ SETLink) ภายในวันที่ 18 ธันวาคม 2568