KEY
POINTS
หากเทียบสถิติตลาดหุ้นไทยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 นี้ (ม.ค.-ส.ค.) หรือประมาณ 159 วันทำการแรก ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ปิด ณ วันที่ 29 ส.ค. ที่ระดับ 1,236.61 จุด ลดลง 161.32 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 11.53% จากเปิดการซื้อขายวันแรกของปีนี้ที่ระดับ 1,397.93 จุด
ขณะที่มูลค่าการซื้อขายโดยรวมอยู่ที่ระดับ 6,748,314.31 ล้านบาท หรือเฉลี่ยที่ประมาณ 42,442.23 ล้านบาท ซึ่งจากความผันผวนของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้กรอบการเคลื่อนไหวของมูลค่าการซื้อขายจึงค่อนข้างกว้าง โดยแตะระดับสูงสุดที่ 74,536.25 ล้านบาท (28 ก.พ.) และต่ำสุดที่ระดับ 17,321.58 ล้านบาท (28 มี.ค.)
เมื่อเทียบกับช่วง 8 เดือนแรกของปี 2567 หรือประมาณ 162 วันทำการแรกของปี SET Index ปิดตลาดที่ระดับ 1,359.07 จุด ลดลง 56.63 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 4.00% จากเปิดตลาดซื้อขายวันแรกที่ระดับ 1,415.70 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 6,928,758.58 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 42,770.11 ล้านบาทต่อวัน
จะเห็นได้ว่าแม้ว่าตลาดหุ้นไทยยังคงเผชิญหน้ากับสถานการณ์ความผันผวนทั้งจากปัจจัยในประเทศและต่างประเทศ แต่ในปี 2568 ดัชนีปรับตัวลดอย่างร้อนแรงมากกว่า 104.68 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 184.86% และเมื่อเทียบมูลค่าการซื้อขายลดลง 180,444.27 ล้านบาท หรือ -2.60%
หากแบ่งมูลค่าการซื้อขายออกตามประเภทนักลงทุน พบว่า มีเพียง 'นักลงทุนในประเทศ' เท่านั้นที่มีสถานะ 'ซื้อสุทธิ' มูลค่ารวม 106,934.88 ล้านบาท โดยตลอดช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา มีเพียงเดือน ก.ค. เท่านั้นที่นักลงทุนในประเทศมีสถานะขายสุทธิ รวม 19,906.93 ล้านบาท เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่มีสถานะซื้อสุทธิอยู่ที่ 123,259.73 ล้านบาท ลดลง 16,3224.85 ล้านบาท หรือเปลี่ยนแปลง 13.24%
ด้านนักลงทุนต่างประเทศ มีสถานะ 'ขายสุทธิ' สูงสุด มูลค่ารวมราว 84,287.32 ล้านบาท โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2568 ต่างชาติการเทขาายหุ้นไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยสูงสุดที่ 21,865.52 ล้านบาท ในเดือน มี.ค. และน้อยที่สุดที่ 6,667.44 ในช่วงเดือน ก.พ. ทั้งนี้ มีเพียงเดือน ก.ค. ที่พลิกสถานะเป็น 'ซื้อสุทธิ' มูลค่า 16,142.32 ล้านบาท เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ขายสุทธิรวม 124,747.90 ล้านบาท ลดลง 40,460.58 ล้านบาท หรือเปลี่ยนแปลง 32.43%
ส่วนกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ในช่วง 8 เดือนแรกปีนี้ มีสถานะ 'ขายสุทธิ' รวม 14,133.91 ล้านบาท โดยจะสังเกตได้ว่ามีเพียงเดือนม.ค. เท่านั้นที่มีสถานะซื้อสุทธิ 1,476.89 ล้านบาท หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็ขายออกมาอย่างต่อเนื่องมูลค่าสูงสุดที่ 7,588.64 ล้านบาท ในเดือน มี.ค. และต่ำสุดที่ 485.41 ล้านบาทในเดือนส.ค. เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ขายสุทธิ 2,563.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,570.54 ล้านบาท หรือเปลี่ยนแปลง 451.38%
เช่นเดียวกันกับกลุ่มนักลงทุนสถาบันที่มีสถานะ 'ขายสุทธิ' รวม 8,513.65 ล้านบาท ซึ่งในช่วงตลอด 8 เดือนแรกของปีนี้สถาบันมีทั้งแรงซื้อสลับกับแรงขาย แต่อย่างไรก็ดีเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่มีสถานะซื้อสุทธิ 4,051.54 ล้านบาท
สำหรับการจัดอันดับการซื้อขายของบริษัทสมาชิกทั้งหมด 36 หลักทรัพย์นั้น ประเภทการลงทุนเพื่อบัญชีบริษัทหลักทรัพย์มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 800,958.32 ล้านบาท, รวมทั้งตลาดโดยไม่รวมประเภทการลงทุนเพื่อบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ มีมูลค่าที่ 12,684,525.07 ล้านบาท และรวมทั้งตลาด (ไม่รวม DRx) อยู่ที่ 13,488,483.40 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตลาดหุ้นไทยซึมซับข่าวร้ายไปมากแล้ว ประกอบกับจากความชัดเจนทางการเมือง ส่งผลให้ในช่วงต้นเดือน ก.ย. 68 เริ่มมีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ดัชนีสามารถกลับมายืนเหนือระดับ 1,300 จุดได้ ทำให้เป็นที่น่าสนใจว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้หากไม่มีข่าวเชิงลบมากระทบใหม่เพิ่มเติมตลาดหุ้นไทยจะกลับไปยืนในระดับใกล้เคียกับเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนได้หรือไม่