SET เผยเดือนส.ค. 68 ดัชนีร่วง 0.5% ต่างชาติขายสุทธิ 2.1 หมื่นล้าน

04 ก.ย. 2568 | 08:53 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ก.ย. 2568 | 09:57 น.

ตลาดหลักทรัพย์ รับดัชนี SET เดือนสิงหาคม 2568 ปรับตัวลง 0.5% สวนทางกับสัญญาณบวกจากการลดดอกเบี้ยของเฟด - กนง. แต่แรงขายสุทธิจากต่างชาติและเงินทุนไหลออกยังเป็นแรงกดดันหลัก

KEY

POINTS

  • ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ในเดือนสิงหาคม 2568 ปรับตัวลดลง 0.5% จากสิ้นเดือนก่อนหน้า
  • นักลงทุนต่างชาติมีสถานะเป็นผู้ขายสุทธิมูลค่า 21,816 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกลับมาขายสุทธิหลังจากซื้อสุทธิในเดือนกรกฎาคม
  • ปัจจัยหลักที่กดดันตลาดคือเงินทุนต่างชาติไหลออก เนื่องจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลไทยและสหรัฐฯ กว้างขึ้น หลัง กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงไทยได้รับแรงหนุนจากสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธาน Fed ส่งสัญญาณถึงโอกาสการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน 2568

ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกรกฎาคมที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด ทั้งนี้ เงินทุนต่างชาติไหลออกจากทั้งตลาดพันธบัตรและหุ้นไทย ท่ามกลางส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลของไทยและสหรัฐที่กว้างขึ้น หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เป็น 1.50% ต่อปี ส่งผลให้ดัชนี SET Index ในเดือนสิงหาคม ปรับตัวลงเล็กน้อย 0.5% จากสิ้นเดือนกรกฎาคม 

ทั้งนี้ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยเป็น 2% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.8% โดยเป็นไปตามการเร่งส่งออกสินค้าก่อนที่ภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้

แม้ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 2/2568 ขยายตัว 2.8% ชะลอลงจาก 3.2% ในไตรมาส 1/2568 ปัจจัยหลักจากการชะลอตัวของการผลิตนอกภาคเกษตร โดยเฉพาะกลุ่มบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว

ภาพรวมกำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) เติบโตต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มีผลการดำเนินงานดีกว่าคาดปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ความสำเร็จของงาน Thailand Focus 2025 และผลตอบแทนหุ้น IPO ที่เริ่มฟื้นตัวในเดือนที่ผ่านมา สะท้อนถึงความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทย

ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทยเดือนสิงหาคม 2568 พบว่า SET Index ปิดที่ 1,236.61 จุด ปรับลดลง 0.5% จากสิ้นเดือนก่อนหน้า ถือเป็นการปรับลงเล็กน้อยหลังปรับเพิ่มขึ้นมากในเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีถึงสิ้นเดือนสิงหาคม SET Index ปรับลดลง 11.7% จากสิ้นปีที่ผ่านมา

SET เผยเดือนส.ค. 68 ดัชนีร่วง 0.5% ต่างชาติขายสุทธิ 2.1 หมื่นล้าน

โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มการเงิน กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และกลุ่มทรัพยากร พร้อมกันนี้ มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน mai 1 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ.โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล (HANN)

ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรายวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 50,672 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรายวันรวมอยู่ที่ 43,011 ล้านบาท ลดลง 3.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยผู้ลงทุนต่างประเทศยังคงมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดที่ระดับ 51.47% ของมูลค่าการซื้อขายรวม แต่มีสถานะเป็นผู้ขายสุทธิ 21,816 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกลับมาขายสุทธิหลังจากซื้อสุทธิในเดือนก่อน

ด้าน Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นสิงหาคม อยู่ที่ระดับ 13.9 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.5 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 14.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 15.4 เท่า

ในส่วนอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นสิงหาคม 2568 อยู่ที่ระดับ 3.99% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.08%

สำหรับภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) เดือนสิงหาคม 2568 พบว่า มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 369,772 สัญญา เพิ่มขึ้น 4.1% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ Single Stock Futures และ SET50 Index Options ทำให้ในปี 2568 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 419,267 สัญญา ลดลง 13.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ Single Stock Futures และ Gold Online Futures