โบรกชี้คดี ‘แพทองธาร’ ไม่ถึงขั้นลาออก ตลาดหุ้นปลายสัปดาห์มีลุ้นฟื้นตัว

28 ส.ค. 2568 | 04:00 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ส.ค. 2568 | 04:00 น.

จับตา ศาล รธน. เตรียมวินิจฉัยคดีคลิปเสียง 'แพทองธาร ชินวัตร' โบรกชี้มีโอกาสรอด มากกว่าชิงลาออก ด้านตลาดหุ้นไทยอาจเผชิญแรงกดดันต้นสัปดาห์ แต่ปลายสัปดาห์มีโอกาสฟื้น แนะหุ้นท่องเที่ยว–บริโภค น่าสนใจ

จากประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ ลงมติ และนัดฟังคำวินิจฉัย คดีคลิปเสียงนายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในวันที่ 29 ส.ค. 68 นี้ แม้ว่าจะมีกระแสข่าวว่า 'แพทองธาร' อาจชิงลาออกก่อนคำศาลตัดสิน

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดมุมมองส่วนตัวต่อ 'ฐานเศรษฐกิจ' ว่า ไม่น่าเป็นไปได้ที่ นายกฯ จะลาออกก่อนคำพิจารณาของศาลจะชัดเจน

ประกอบกับก่อนหน้านี้ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในประเด็นการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประเด็นเรื่องของการผิดจริยธรรมและไม่ซื่อสัตย์

หากว่านายกฯ ลาออกจริง ก็อาจจะต้องไปเผชิญด่าน ป.ป.ช. ต่อไป ดังนั้น เชื่อว่าจะรอดูความชัดเจนของศาลรัฐธรรมนูญก่อน เพราะโอกาสรอดอาจยังพอมี และถึงจะลาออกก่อนศาลฯ ก็ไม่ได้มีการจำหน่ายคดีออกไปด้วย

ในแง่ผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยนั้น มองว่าการเมืองก็มีส่วนกดดันในช่วงที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ว่าตลอดทั้งสัปดาห์นี้ระหว่างรอผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อาจเป็นแรงกดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย

เชื่อว่าในวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคมนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยจะดูผ่อนคลายมากขึ้น และมีโอกาสยืนแดนบวกได้

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน หากอิงจากกรณี นายกฯ แพทองธาร รอด รัฐบาลจะพยายามปรับปรุงการดำเนินงานและขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น

ดังนั้นจึง มองว่าหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจในประเทศมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มท่องเที่ยวและอุปโภค-บริโภค

กลุ่มท่องเที่ยว แนะนำ CENTEL และกลุ่มอุปโภค-บริโภค แนะนำ CRC CPN CPALL และ COM7 เป็นต้น

เดินหน้าสู่การยุบสภาฯ

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า ทางฝ่ายมองความเป็นไปได้ใน 3 กรณี ได้แก่

  1. ยกคำร้อง
  2. นายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่ง และได้นายกฯ ใหม่จากพรรคร่วมที่มี
  3. นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง และพรรคภูมิใจไทยกลับเข้าร่วมรัฐบาล

ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นฉากทัศน์ไหน ก็มองว่าท้ายที่สุดการเมืองจะเดินหน้าไปสู่การยนุบสภาภายในกรอบระยะเวลา 3 - 6 เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตาม คาดผลกระทบต่อเศรษฐกิจจำกัดหลังร่างงบประมาณ 69 ผ่านสภาผู้แทนฯ แล้ว

ประเทศไทยยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนทางการเมือง เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีแพทองธารในวันที่ 29 ส.ค.นี้ ซึ่งอาจนำไปสู่การถูกถอดถอน หากผลการตัดสินออกมาว่าผิด อาจทำให้การแต่งตั้งนายกฯ คนใหม่ล่าช้า ทั้งนี้ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดคาดว่าจะมีจำกัด เนื่องจากงบประมาณปี 69 ได้รับการอนุมัติแล้ว