KEY
POINTS
ช่วงเช้าวันที่ 26 สิงหาคม 2568 มีรายงานว่า นักการเมืองและนักธุรกิจฝั่งตรงข้ามกับรัฐบาล ได้ร่วมกันลงขันกว่า 2 พันล้านบาท เพื่อหวังโค่น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม เพื่อเปิดทางให้มีการเลือก “นายกรัฐมนตรีคนใหม่” และ “ตั้งรัฐบาลใหม่”
ข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าว การดีลระหว่าง “ส.-ท.” ซึ่งเป็นกระแสข่าวที่ “พรรคเพื่อไทย” เชื่อว่า นายกรัฐมนตรีจะรอดจากวิบากกรรมคดีคลิปเสียงฮุนเซน
วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2568 นี้ เวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดอ่านคำวินิจฉัย ชี้ชะตา “แพทองธาร ชินวัตร” ภายใต้คำร้องที่มีการยื่นต่อศาลฯ กรณี “คลิปเสียงฮุนเซน” ซึ่ง 36 สมาชิกวุฒิสภา (สว.) มองว่าเข้าข่ายกระทบต่อความมั่นคง และอาจขัดรัฐธรรมนูญมาตราเกี่ยวกับคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี
คำวินิจฉัยครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นการชี้ชะตาทางการเมืองของนายกฯ หญิงคนที่สอง จาก “ตระกูลชินวัตร” ที่ก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯ คนที่ 31 ด้วยเสียงสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย และ กลุ่มการเมืองร่วมรัฐบาล หากแต่ยังเป็นตัวแปรสำคัญต่อเสถียรภาพของรัฐบาล และอนาคต “รัฐบาลแพทองธาร”
หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า “ไม่ผิด” น.ส.แพทองธาร จะสามารถเดินหน้าบริหารประเทศต่อไป และถือเป็นการปลดล็อกแรงกดดันทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา
แต่หากศาลฯ วินิจฉัย “ผิด” และสิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะส่งผลให้การเมืองไทยเข้าสู่ความไม่แน่นอน
...หากผลศาลฯ ออกมาตามแนวทางหลัง จะนำไปสู่การเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมือง ซึ่งอาจ “เข้าทาง” ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ที่รอเวลา “ถอนแค้น” อยู่แล้ว...