โบรกมองหุ้นอิงเศรษฐกิจในประเทศ ยังไปต่อ ชูท่องเที่ยว-ค้าปลีก ดาวเด่น

จากสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศที่ยังคงมีความไม่แน่นอน ส่งผลทำให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนยิ่งสั่นคลอนมากขึ้น ที่ผ่านมานักวิเคราะห์หลายแห่งมักให้มุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจในประเทศ (Domestic Play) อาจด้วยแนวโน้มการลงทุนและการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่มีมาอย่างต่อเนื่อง

จึงทำให้กลุ่ม Domestic Play ยังมีความน่าสนใจ แต่เป็นที่รู้กันดีว่าในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ของทุกปีปกติแล้วจะเป็นช่วงโลวซีซันของการอุปโภคและบริโภค เป็นช่วงที่เริ่มเข้าสู่ฤดูฝนการออกนอกบ้านเพื่อจับจ่ายใช่สอยและการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนยิ่งลดน้อยลง

แน่นอนว่าผลการดำเนินงานหุ้น Domestic Play จึงอาจออกมาไม่ได้ดีนัก ทำให้เป็นที่น่าสนใจว่าคำแนะนำการลงทุนหุ้นกลุ่ม Domestic Play จะยังมีความน่าสนใจอยู่อีกหรือไม่

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า มองว่าหุ้นกลุ่ม Domestic Play ได้รับความสนใจอย่างมากตั้งแต่ช่วงที่ "ทรัมป์" ชนะการเลือกตั้ง

ส่งผลให้ปัจจุบันนักลงทุนมีหุ้นกลุ่มนี้อยู่ในมือเยอะ ดังนั้นก็มีโอกาสที่จะเห็นการปรับลดน้ำหนักลง และหันไปลงทุนในหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจในประเทศบ้าง หลังจากที่เห็นว่าการค้าระหว่างประเทศสถานการณ์ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คาดไว้ ทำให้หุ้นกลุ่มปิโตรเคมี และบรรจุภัณฑ์ ฟื้นตัวได้ในช่วงนี้

ทั้งนี้ แม้ว่าในช่วงไตรมาส 2/68 ที่ผ่านมา จะเป็นโลวซีซันของธุรกิจส่วนใหญ่ ทำให้ผลการดำเนินงานอาจไม่ได้ดีเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่มองว่าในช่วงที่ผ่านมาหุ้นกลุ่ม Domestic Play ถูกซึมซับปัจจัยเชิงลบไปค่อนข้างมากแล้ว และราคาหุ้นบางตัวถึงจุดต่ำสุดแล้ว ทำให้คาดว่าหลังจากนี้จะเริ่มเห็นการพยายามฟื้นตัวในหุ้นกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้น

คัด 6 หุ้นเด่น

โดยหุ้น Domestic Play ทางฝ่ายมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นที่มีขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL และ CPAXT แม้ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจในปัจจุบันจะค่อนข้างต่ำ แต่ข้อดีของธุรกิจขนาดใหญ่คือมีเงินทุนที่แข็งแกร่ง และยังคงสามารถขยายสาขาใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็มีบวกต่อยอดขายและรายรับที่ดีขึ้น

ขณะเดียวกันก็มีมุมมองที่เป็นบวกต่อกลุ่มหุ้นท่องเที่ยว ได้แก่ MINT ERW CENTEL และ SPA แม้ว่ายอดนักท่องเที่ยวชาวจีนจะลดลง แต่กลุ่มยุโรปและตะวันออกกลางยังคงมี ถึงปริมาณนักท่องเที่ยวจะไม่สูงมากนักแต่ก็เป็นกลุ่มที่มีอัตราการใช้จ่ายที่สูงกว่า