นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ประเมินภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนมิ.ย. 2568 มองว่าในช่วงครึ่งแรกของเดือนนี้ยังดูมีความผันผวนอยู่ไม่น้อย จากปัจจัยทั้งภายในประเทศและต่างประเทศที่เข้ามากดดัน
โดยปัจจัยภายในประเทศนั้น ยังต้องรอดูความชัดเจนในการเจรจาการค้ากับทางสหรัฐฯ ท้ายที่สุดไทยจะสามารถต่อรองเงื่อนไขทางภาษีได้มากน้อยเพียงใด รวมไปถึงความเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยเฉพาะการปรับครม. ซึ่งเมื่อสถานการณ์นิ่งขึ้นแล้ว ตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย. เป็นต้นไป ทางฝ่ายคาดว่าบรรยากาศการลงทุนจะกลับมาอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ ในช่วงกลางเดือนมิ.ย. ยังมี 3 ปัจจัยที่คาดว่าจะเข้ามาช่วยหนุนให้บรรยากาศการลงทุนกลับมามีทิศทางที่ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต่างประเทศให้การจับตารอดูความชัดเจน และหากว่าเป็นไปในทางบวกก็มีโอกาสเห็นการไหลกลับเข้ามาลงทุนของต่างชาติอีกครั้ง
ประกอบด้วย
ขณะที่กลยุทธ์การลงทุนนั้น ทางฝ่ายแนะนำกลับเข้าไปลงทุนใน Domestic Play ช่วงครึ่งหลังเดือน มิ.ย. เช่น กลุ่มค้าปลีก สื่อสาร โรงไฟฟ้า โรงพยาบาล รับเหมาก่อสร้าง เพราะจะได้แรงหนุนจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ
สำหรับหุ้นศักยภาพที่มีความทนทางต่อเศรษฐกิจที่ยังดุมีความไม่แน่นอนในปัจจุบัน (Defensive Stock) ทางฝ่ายได้คัดหุ้นเด่นมา 4 หลักทรัพย์ ได้แก่
อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายวางเป้าหมายดัชนีปี 2568 นี้ไว้ที่ 1,275 จุด ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวเดือนมิ.ย. แนบรับที่ 1,120 จุด และแนวต้านที่ 1,170 จุด ในแง่อัตราส่วนในการปรับพอร์ตลงทุนนั้น แนะนำ สหรัฐฯ 30% หุ้นไทย 20% จีน 20% เวียดนาม 10% ทองคำ 10% และพันธบัตร 10% เป็นต้น