จากกรณีที่ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF มีการจำหน่ายหุ้น ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ออกมาจำนวน 9,145,900 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 0.3860% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดในกิจการ
โดยเป็นการขายในตลาดหลักทรัพย์ ผ่าน บล. บัวหลวง เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2568 ซึ่งหากย้อนกลับไปดูกรอบราคาหุ้นเคลื่อนไหวระดับสูงสุดและต่ำสุดในวันดังกล่าว อยู่ที่ระดับ 47.50 - 46.50 บาท คิดเป็นมูลค่าจากการขายหุ้น อยู่ที่ 434,430,250 - 425,284,350 บาท ตามลำดับ
จากเดิมที่ GULF มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่จำนวน 118,753,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 5.0120% นับเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สูงสุดอันดับที่ 3 ของ KBANK หล่นชั้นลงมาเป็นลำดับที่ 4 ตามสัดส่วนการถือครองหุ้นที่เหลืออยู่ในมือล่าสุดที่ 109,607,100 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 4.6260% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดในกิจการ
ทั้งนี้ หากรวมกับ นางนลินี รัตนาวะดี ซึ่งถือเป็นบุคคลที่กระทำการร่วมกัน ซึ่งถือหุ้น KBANK อยู่ก่อนแล้วในจำนวน 123,030 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 0.0051% จะทำให้ GULF ถือหุ้นใน KBANK จำนวนทั้งหมด 109,730,130 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 4.6312% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดในกิจการ
อย่างไรก็ตาม KBANK ได้ขึ้นเครื่องหมาย XD ไปเมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา และมีกำหนดการจ่ายเงินปันผลวันที่ 6 มิ.ย. 68 นี้ ในอัตรา 2.50 บาท/หุ้น ด้วยสัดส่วนการถือครองหุ้นที่เหลืออยู่ในมือ GULF และ นางนลินี รัตนาวะดี คาดว่าจะได้รับเงินปันผลรวมทั้งสิ้น 274,325,325 บาท