ตลาดหุ้นวันนี้แกว่ง Sideway รับแรงความไม่แน่นอนการค้าโลก

07 พ.ค. 2568 | 02:42 น.
อัปเดตล่าสุด :07 พ.ค. 2568 | 02:42 น.

บล.ลิเบอเรเตอร์ คาด SET วันนี้ “Sideways” ในกรอบ 1,180-1,200 จุด จากนโยบายการค้าที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง คาดส่งผลให้ประชุมเฟด รอบนี้ ยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่เดิม

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) ประเมินภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ 7 พ.ค.68 ว่า คาดดัชนี SET Index แกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,180-1,200 จุด ตามความไม่แน่นอนของการค้าโลก

โดยวานนี้กระทรวงพาณิชย์รายงานเงินเฟ้อทั่วไปของไทย เดือนเม.ย. 68 -0.22% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ชะลอจากมีนาคม ที่ +0.84% และต่ำกว่าคาดที่ -0.1% โดยมีสาเหตุหลักจากการลดลงของราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน ได้แก่ แก๊สโซฮอล์ น้ำมันเบนซิน และค่าไฟฟ้า

ขณะที่ราคาเนื้อสัตว์ยังปรับขึ้น ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน +0.98% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ขึ้นจาก +0.86% และสูงกว่าคาดที่ +0.90% 

แนวโน้มเดือนพ.ค. ยังคาดเงินเฟ้อไทยลดต่อเนื่อง จากราคาน้ำมันดิบที่ยังชะลอ และภาครัฐลดค่าไฟฟ้า ส่งผลให้พาณิชย์มีโอกาสลดคาดการณ์เงินเฟ้อทั้งปีลง และเราคาดว่ามีโอกาสที่ กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปี จากปัจจุบันที่ระดับ 1.75%

อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ การปรับดัชนี SET50/100 รอบใหม่ ซึ่งจะประกาศในช่วงกลางเดือน มิ.ย. นี้ ซึ่งทางฝ่ายจึงได้คำนวนหุ้นที่มีโอกาสเข้าออก SET50/100 รอบใหม่ โดยแนะเก็งกำไรหุ้นที่คาดได้รับคัดเลือกเข้าดัชนี ขณะเดียวกันก็เพิ่มความระมัดระวังในหุ้นคาดถูกคัดออกร่วมด้วย

สำหรับปัจจัยต่างประเทศ คืนนี้แนะติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยคาดธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในกรอบ 4.25-4.50% เนื่องจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯยังมีความไม่แน่นอนสูง อย่างไรก็ดีเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีความเสี่ยง ดังนั้น ทางฝ่ายคาดว่าเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีกราว -0.75% ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ 

ปัจจัยที่ต้องจับตา

07 พ.ค.68

  • ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)
  • สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์สหรัฐฯ
  • ยอดค้าปลีกของยูโรโซน
  • PMI ภาคบริการของญี่ปุ่น 

08 พ.ค.68

  • การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE)
  • ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
  • รายสัปดาห์สหรัฐฯ

09 พ.ค.68

  • ยอดส่งออกของจีน

หุ้นเด่นแนะนำ

ADVANC ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 309.00 บาท

  • รายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 1/68 ที่ 10, 584 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาสก่อน และโต 25% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ดีกว่าตลาดคาดราว 8% 
  • แรงหนุนหลักจาก Prepaid ARPU ที่เติบโตเด่น ผสานการควบคุมต้นทุนหลักที่ทำได้ดีต่อเนื่อง
  • แนวโน้มไตรมาส 2/68 มีปรับการปรับเพิ่มราคาเต็มไตรมาส คาดหนุน Prepaid ARPU ดีต่อเนื่อง ส่วนการประมูลคลื่นรอบใหม่ช่วงปลาย มิ.ย. คาดการแข่งขันไม่รุนแรง เป็นบวกต่ออุตสาหกรรม