ตลาดหุ้นไทยรับโมเมนตัมบวก แกว่งขาขึ้น กรอบ 1,180 - 1,220 จุด

02 พ.ค. 2568 | 02:56 น.
อัปเดตล่าสุด :02 พ.ค. 2568 | 02:56 น.

บล.ลิเบอเรเตอร์ คาด SET วันนี้ “แกว่งขึ้น” ในกรอบ 1,180 - 1,220 จุด หลังมติ กนง. ลดดอกเบี้ยเป็นโมเมนตัมบวก ความคาดหวังมาตรกระตุ้นเพิ่มช่วงถัดไปหนุน เม็ดเงิน TESGX ที่ทยอยเข้าช่วยพยุง

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) ประเมินภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ 2 พ.ค. 68 ว่า วันพุธที่ผ่านมา (30 เม.ย.68) ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ “ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ลงสู่ระดับ 1.75%” เป็นไปตามคาด

โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวลดลง และมี Downside มากขึ้นจากนโยบายการค้าโลกและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผสานเงินเฟ้อที่มีโอกาสต่ำกว่าเป้ากรอบล่าง จึงทำให้คณะกรรมการส่วนใหญ่ปรับลดดอกเบี้ย

ทั้งนี้ กนง. ได้ประเมินฉากทัศน์ของเศรษฐกิจไทยออกเป็น 2 แนวทาง คือ

  1. การเจรจายืดเยื้อ โดยมีการผ่อนผันภาษีให้กับคู่ค้าเป็นระยะ ซึ่งคาดท้ายที่สุดภาษีในทุกประเทศจะเหลือ 10% ส่วนจีนจะเริ่มผ่อนผันในช่วงไตรมาส 3/68 และภาษีจีนเหลือ 54%
  2. คาดทุกประเทศจะลดภาษีได้ครึ่งหนึ่งตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/68 ส่วนจีนจะถูกเก็บ 72.5% โดยผลกระทบของทั้งสองเคส คาดจะมี Downside ต่อ GDP ไทย ที่ -0.4% และ -1.0% ส่งผลให้ กนง. ประเมิน GDP ไทยปีนี้ในเคสแรกจะขยายตัว เหลือ 2.0% และเคสที่ 2 จะเหลือเพียง 1.3% เท่านั้น

ทางฝ่ายคาดว่าการปรับลดดอกเบี้ยจะหนุนโมเมนตัมเชิงบวกต่อ SET ผสานเดือน พ.ค. 68 ยังคาดมีปัจจัยเสริมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และการทยอยออกกองทุน TESGX หนุนเม็ดเงินใหม่เข้ามาช่วงพยุง

ดังนั้น จึงคาด SET “แกว่งขึ้น” ในกรอบ 1,180 - 1,220 จุด รวมถึงยังมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อ โดยสำหรับหุ้นที่แนะทยอยสะสมสำหรับเดือน พ.ค. เทางฝ่ายแนะนำ CCET, GULF, PR และ SCGP เป็นต้น

ปัจจัยที่ต้องจับตา

02 พ.ค.68
PMI ภาคการผลิตของไทย & ยูโรโซน
การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ
ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานสหรัฐฯ
ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ
CPI ยูโรโซน

หุ้นเด่นแนะนำ

SCGP ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 17.00 บาท

  • ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/68 ดีกว่าคาด ขณะที่ในช่วงไตรมาส 2/68 คาดยังมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง จากการเร่งส่งออกมากยิ่งขึ้น ก่อนการใช้มาตรการภาษีของทรัมป์ 
  • Fajar ดีขึ้น จากต้นทุนที่ลดลง โดยคาด EBITDA จะถึงจุดคุ้มทุนในไตรมาส 2/68 นี้
  • ขณะที่ Valuation ซื้อขายเพียง PBV 0.48 เท่า คาดเป็นระดับที่น่าทยอยสะสม