กนง. หั่นดอกเบี้ยเหลือ 1.75% รับมือเศรษฐกิจโลก กูรูชี้หุ้น Defensive คือทางรอด

30 เม.ย. 2568 | 08:00 น.
อัปเดตล่าสุด :30 เม.ย. 2568 | 08:00 น.

ภาวะเศรษฐกิจโลกผันผวนฉุดเศรษฐกิจไทยชะลอตัว กนง. ตัดสินใจลดดอกเบี้ยเหลือ 1.75% ด้านโบรกฯ ชี้ตลาดยังเสี่ยง แนะกระจายลงทุนในหุ้นแนว Defensive และค้าปลีก

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า กรณีที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 : 2 ให้ลดดอกเบี้ย 0.25% มาเป็น 1.75% สถานการณ์นโยบายการค้าสหรัฐฯ และการตอบโต้ของเศรษฐกิจหลักนำไปสู่การปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจ การเงิน และการค้าโลกอย่างมีนัย

ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีความไม่แน่นอนสูงมาก เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มปรับลง สถานการณ์ก็คล้ายว่าจะยืดเยื้อ และผลกระทบจะทอดยาวไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการค้า การผลิต ที่ทำให้ประสิทธิภาพลดลงในระยะยาว และคาดการณ์การค้าโลกในเศรษฐกิจหลักก็คาดเดาได้ยาก

ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มปรับลดลงและความเสี่ยงด้านต่ำเพิ่มขึ้นจากนโยบายการค้าโลกและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง คณะกรรมการจึงเห็นสมควรปรับลดดอกเบี้ยเพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและรอบรับความเสี่ยงด้านต่ำที่เพิ่มขึ้น

ที่ประชุมคาดการณ์เศรษฐกิจไทยขยายตัว 2% เทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน แต่หากภาษีนำเข้าเผชิญอัตราที่สูงอาจทำให้เหลือการขยายตัวเพียง 1.3% สรุปเป็นกลยุทธ์การลงทุนได้ว่าตลาดหุ้นยังดูมีความเสี่ยงจากการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจและกำไร

โดยการค้าโลกจะเป็นปัจจัยกดดัน Upside ด้านบน จึงไม่ควรประมาทกับการลงทุนและเน้นเลือกหุ้นที่ผลกระทบต่อกำไรจำกัด จำพวก Defensive อาทิ BDMS และ ADVANC, หุ้นค้าปลีกสินค้าจำเป็น เช่น BJC CPALL และ CPAXT เป็นต้น

ขณะเดียวกันที่ในระยะสั้นๆ อาจเลือก Trading กลุ่มการเงิน อย่าง MTC และ SAWAD และหุ้นกลุ่มอสังหาฯ อาทิ AP และ SPALI ได้ เพราะอาจได้รับปัจจัยหนุนสั้นๆ แต่อย่างไรก็ดี ในแง่ของพื้นฐานอาจยังไม่แข็งแกร่งนัก