WHA เนื้อหอมลูกค้าจีบซื้อที่ดิน หนุนยอดไตรมาสแรกพุ่ง อวดแบ็กล็อกแน่น

26 ก.พ. 2568 | 00:30 น.

WHA มั่นใจอนาคตสดใส! แม้หุ้นร่วงแรง แต่พื้นฐานธุรกิจยังแกร่ง แม่ทัพหญิง "จรีพร จารุกรสกุล" ลุยขยายนิคม-คลังสินค้า รับดีมานด์ลงทุนไทย พร้อมดัน WHAID แต่งตัวเตรียม IPO เสริมศักยภาพ ด้านธุรกิจสาธารณูปโภคโตต่อเนื่อง ตอบรับการย้ายฐานผลิตสู่ไทย

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาสแรกปี 2568 นี้ เชื่อว่าจะยังคงเห็นการขยายตัวทางธุรกิจและผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่องเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน

โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2568 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน บริษัทยังคงได้รับความสนใจจากลูกค้าทั้งในประเทศและโดยเฉพาะต่างประเทศเข้ามาติดต่อเจรจาซื้อที่ดินนิคมฯ และเช่าพื้นที่คลังสินค้าใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภายในช่วง 2 เดือนแรกปีนี้บริษัทมีการเซ็นสัญญาเช่าพื้นที่คลังสินค้าไปแล้วกว่า 30,000 ตารางเมตร (ตร.ม.)

ขณะที่ธุรกิจนิคมฯ นั้น ปัจจุบันมีดีลที่อยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าอีกจำนวนมาก โดยเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ต้องการจัดซื้อที่ดินแบบบิ๊กล็อตรวมกว่า 400-600ไร่ ที่อยู่ระหว่างรอการเซ็นสัญญา อย่างไรก็ดี ในช่วงต้นปีนี้บริษัทมีการเซ็นสัญญาขายที่ให้รายใหญ่ไปได้แล้วกว่า 500 ไร่ และคาดว่าเร็วๆ นี้ จะสามารถเซ็นสัญญาขายที่เพิ่มได้อีกกว่า 400 ไร่

นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายที่รอการทยอยโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ในมือรวมกว่า 1,500 ไร่ (ยังไม่นับรวมดีลที่มีการเซ็นสัญญาเพิ่มเติมเมื่อต้นปี) เบื้องต้นคาดจะสามารถทยอยโอนกรรมสิทธิและรับรู้เป็นรายได้เข้ามาตั้งแต่ต้นปีนี้ และยังต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้าบางส่วน

ในส่วนธุรกิจสาธารณูปโภคนั้น มองว่ายังคงมีแนวโน้มการขยายตัวที่ดี โดยมองว่าจากความต้องการเคลื่อนย้ายฐานทุนมายังประเทศไทย นอกจากจะหนุนความต้องการพื้นที่ลงทุนและเช่าพื้นที่แล้ว แต่ยังส่งผลเชิงบวกต่อความต้องการใช้น้ำและไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นร่วมด้วย ทำให้มองว่าอัตราการเติบโตสอดคล้องกัน

"มองว่า WHA ไม่ว่าอย่างไรก็มีแต่ปัจจัยบวกที่เข้ามาหนุน แม้หลายประเทศกังวลต่อปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และสงครามการค้า แต่ในทางกลับกันเรากลับมองว่านี่จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้การย้ายฐานทุนของต่างชาติเข้ามาลงทุนยังประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าเราได้รับอานิสงส์ การฟื้นตัวเศรษฐกิจดีขึ้น การลงทุนของเอกชนการมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามไปด้วย"

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA

ย้ำธุรกิจยังมีอนาคต

นางสาวจรีพร กล่าวเสริมว่า ประเด็นที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมาแรงมาก ยอมรับว่าก็ตกใจเช่นเดียวกัน เพราะไม่มีเหตุผลในเชิงลบที่จะเข้ามากระทบต่อการดำเนินงานหรือธุรกิจเลย การประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/67 และภาพรวมปี 67 ยังทำออกมาได้ดี

แม้ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินบางส่วนอาจไม่ทันช่วงปลายปี แต่ก็ยกยอดมาโอนในต้นปี 68 แทน ซึ่งก็เป็นปกติของธุรกิจ โดยมองว่านักลงทุนอาจจะกังวล และ ตกใจมากไปกับบทวิเคราะห์ ซึ่งอยากให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่า WHA Group จะยังมีการเติบโตที่ดีในด้านของผลประกอบการ

ราคาหุ้น WHA ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 เปิดตลาดที่ระดับ 4.22 บาท ในช่วงระหว่างวันราคาหุ้นแกว่งในกรอบ 3.48-4.32 บาท ราคาหุ้นปิดตลาดที่ระดับ 3.70 บาท ปรับตัวลดลงกว่า 19.57% หรือ 0.90 บาท มีมูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 3,833.85 ล้านบาท

หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ราคาหุ้น WHA ยังคงยืนในแดนลบอย่างต่อเนื่อง โดยราคาปิดตลาดที่ระดับ 3.44 บาท ปรับตัวลดลง 0.26 บาท หรือ 7.03% ในช่วงระหว่างวันราคาหุ้นแกว่งในกรอบ 3.42-3.76 บาท มีมูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 2,327.87 ล้านบาท

ตลอดจนแผนธุรกิจในช่วง 5 ปี (256 - 2572) มุ่งขยายใน 5 กลุ่มธุรกิจหลัก อาทิ โลจิสติกส์ โมบิลิตี้ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคและพลังงาน และดิจิทัล อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต ซึ่งได้ประกาศออกไปก่อนหน้านี้แล้ว

ดัน WHAID แต่งตัวระดมทุน SET

พร้อมกันนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ (บอร์ด) เดินหน้าแผนเตรียมการออกและเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAID ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

โดยจำนวนหุ้นสามัญที่จะเสนอขายในครั้งนี้คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 22.73% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ WHAID ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ซึ่งบริษัทจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ WHAID โดยจะถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 75.95% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ WHAID ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO

WHAID ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัท ที่ประกอบธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรม ปัจจุบัน WHAID มีนิคมฯ กว่า 15 แห่ง และมีพื้นที่นิคมฯ กว่า 78,500 ไร่ ทั้งในไทยและเวียดนาม ที่เปิดดำเนินการแล้ว 13 แห่ง และอยู่ระหว่างการพัฒนา 2 แห่ง และส่วนขยายของนิคมฯ เดิมที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 2 แห่ง อีกทั้งยังมีโครงการนิคมฯใหม่และส่วนขยายของนิคมฯ เดิมที่รอการพัฒนาอีกจำนวน 7 โครงการ

ทั้งนี้ WHAID ได้มุ่งมั่นพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอัจฉริยะ (Smart ECO Industrial Estate) อย่างต่อเนื่อง บริษัทเล็งเห็นถึงโอกาสในการเติบโตของธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรมจากแนวโน้มการย้ายฐานการผลิตจากผู้ลงทุนต่างชาติ ไทยและเวียดนาม ถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่เป็นศูนย์รวมห่วงโซ่อุปทานที่ครบวงจร

การ IPO ของ WHAID ในครั้งนี้ ทั้ง WHAID และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ร่วมเสนอขายหุ้น จะเสนอขายหุ้นสามัญรวมเป็นจำนวนไม่เกิน 970,518,600 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 22.73% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ WHAID ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO

ภายหลังการ IPO WHAID ยังคงมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของบริษัท โดยบริษัทจะถือหุ้นใน WHAID ทั้งทางตรงและทางอ้อมในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 75.95% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ WHAID ภายหลังการ IPO ทั้งนี้ WHAID ร่วมกับคณะที่ปรึกษาอยู่ระหว่างการจัดเตรียมแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนเพื่อยื่นให้แก่สำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาต่อไป

ขณะเดียวกันกลุ่มบริษัทมีแผนที่จะปรับโครงสร้างการถือหุ้นใน WHAUP โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความสามารถเชิงกลยุทธ์ของ WHAUP ในการขยายธุรกิจ เนื่องจากธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงานเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินทุนสูง โดยการปรับโครงสร้างดังกล่าวจะส่งผลให้ทั้งบริษัท และ WHAID เป็นผู้ถือหุ้นโดยตรงของ WHAUP จะเพิ่มความยืดหยุ่นสำหรับ WHAUP ในกรณีที่จำเป็นต้องจัดหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายธุรกิจในอนาคต

อนึ่ง WHA เป็นผู้นำในการให้บริการแบบครบวงจรที่ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการด้านโลจิสติกส์ โดยสามารถจำแนกส่วนธุรกิจได้เป็น ธุรกิจโลจิสติกส์ (Logistics) ธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรม (Industrial Development) ธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภคและพลังงาน (Utilities & Power) และธุรกิจดิจิทัล (Digital Business)

บริษัทยังมีนโยบายในการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ฯ (WHART WHAIR และ WHABT) เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในการพัฒนาโครงการในอนาคตของบริษัทอย่างต่อเนื่อง และได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของกองทรัสต์ฯ และกองทุนรวมฯ

อีกทั้ง ยังมีนโยบายลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผ่านการลงทุนในกองทรัสต์ฯ และกองทุนรวมฯ เพื่อผลตอบแทนในรูปเงินปันผลสม่ำเสมอเป็นประจำทุกปี

ปัจจุบัน WHA มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) อยู่ที่ระดับ 55,303.29 ล้านบาท มี EBITDA อยู่ที่ 5,677.18 ล้านบาท โดย P/E ที่ระดับ 12.69 เท่า และ P/BV ที่ 1.59 เท่า