FM ชูครึ่งปีหลังเด่น จ่อส่งออเดอร์บิ๊กล็อตแดนกิมจิ มั่นใจรายได้โต 7 พันล้าน

11 ก.ย. 2567 | 09:37 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ก.ย. 2567 | 09:38 น.

"ณัฐพล ดุษฎีโหนด" ย้ำผู้ถือหุ้นใหญ่-กองทุนฯ ยังกอดหุ้นแน่น! ชี้ผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 67 เด่น เตรียมส่งออกออเดอร์ให้รายใหญ่เกาหลีปลายปี รายได้โตตามเป้า 20-25% แตะ 7 พันล้าน พร้อมคงมาร์จิ้นตัวเลข 2 หลัก ใส่เกียร์ลุยธุรกิจอาหารสัตว์

นายณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ FM เปิดเผยว่า ประเด็นที่มีกระแสข่าวกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่มีการขายหุ้นออกมาหรือไม่นั้น บริษัทยืนยันว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ทั้งครอบครัวดุษฎีโหนด และ กองทุน นอร์ทเฮเว่น ไทย ไพรเวท อิควิตี้ โดมินิค คอมปานี (ฮ่องกง) ยังคงถือหุ้น FM และพร้อมที่จะถือลงทุนระยะยาว เนื่องจากเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตที่ดี

โดยจากภาพรวมธุรกิจไก่แปรรูปปรุงสุกส่งออกของไทย และ มีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับหนึ่งของโลก ตลอดจนตลาดมีการขยายตัวทุกปี รวมทั้งมีแผนการขยายธุรกิจที่ชัดเจนในการสร้างการเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งจากการปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นเดือนสิงหาคม 67 พบว่า นอร์ทเฮเว่น ไทยยังคงถือหุ้นในสัดส่วนเท่าเดิม เนื่องจากเชื่อมั่นในธุรกิจที่มีการเติบโตต่อเนื่องมาโดยตลอด

ประเมินภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 67 มองว่าจะดีกว่าเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกที่มีรายได้ 3,646.29 ล้านบาท และ กำไรสุทธิ 361.61 ล้านบาท เนื่องจากมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น ประกอบกับในช่วงครึ่งปีหลังจะเริ่มเห็นการส่งออกสินค้าไปให้กับลูกค้ากลุ่มใหม่รายใหญ่ในประเทศเกาหลีเพิ่มเติมอีกด้วย อย่างไรก็ดี ฐานลูกค้าเดิมยังคงมีสัดส่วนกว่า 70-75% ของยอดขายทั้งหมด

นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 3/67 บริษัทจะมีกำลังการผลิตไก่แปรรูปปรุงสุก (CAV) ที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ในขณะที่เนื้อไก่ดิบก็เติบโตขึ้นสนับสนุนให้กับกำลังการผลิตสินค้าในกลุ่ม CAV ส่งผลให้ผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น บริษัทเชื่อว่าจะดีต่อเนื่องไปในไตรมาส 4/67

ทำให้ในปี 67 บริษัทมั่นใจรายได้รวมจะเติบโตได้ประมาณ 20-25% หรือ ประมาณ 6,900-7,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 5,791 ล้านบาท โดยรายได้จะเติบโตจากการผลิตไก่แปรรูปปรุงสุก ประมาณ 15-20% และ รายได้จากกลุ่มเนื้อไก่ดิบ จะเติบโตที่ประมาณ 25-30% ในขณะที่อัตรากำไรสุทธิในปีนี้จะยังคงอยู่ในระดับ 2 หลัก (2 digit) ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกที่ 10.16% 

"เราอยากย้ำว่าธุรกิจของเรายังคงมีการเติบโตที่ดีอยู่ นอกจากจะมีการส่งออเดอร์ให้ลูกค้าใหม่รายใหญ่ในเกาหลีเพิ่มเติมแล้ว เรายังมีที่อยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้ารายใหญ่ประเทศญี่ปุ่นเพิ่มอีกด้วย สะท้อนต่อการเติบโตของยอดขายที่จะเพิ่มขึ้น ธุรกิจเรายังดีและมีการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง อยากย้ำว่าผู้ถือหุ้นใหญ่และกองทุน ยังพร้อมใจถือหุ้นและจะถือต่อในระยะยาวอยู่ ตอนนี้ราคาหุ้นไม่ค่อยสมเหตุสมผลกับพื้นฐานธุรกิจเลย อยากให้นักลงทุนมีความมั่นใจว่าธุรกิจเรายังดีและมีการเติบโตที่ค่อนข้างมั่นคง"

ขณะเดียวกันบริษัทยังเดินหน้าลุยกลยุทธ์สร้างการเติบโตที่มั่นคง และยั่งยืน อย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจารูปแบบการลงทุนธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง เพื่อสร้าง New Growth ให้กับธุรกิจและผลการดำเนินงาน เบื้องต้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปรายละเอียดได้ในปลายปี 67 นี้ 

นอกจากนี้ ในต้นปี 68 บริษัทมีแผนที่จะเริ่มทำ Due Diligence โดยการประเมินทรัพย์สินตลอดจนหนี้สินของบริษัทว่า มีมูลค่าถูกต้องครบถ้วนตามบัญชีและมีอยู่จริง ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 1/68 เป็นต้นไป

สำหรับการลงทุนในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง บริษัทจะเข้าไปถือหุ้นในบริษัทที่ดำเนินกิจการอยู่แล้ว โดยจะเริ่มจากการเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 20% ขึ้นไป ซึ่งบริษัทมองการเข้าลงทุนในสัดส่วน 25-35% ขึ้นอยู่กับการเจรจา ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจา 1 บริษัท เป็นบริษัทจำกัดที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีขนาดกำลังการผลิตที่ประมาณ 2,000 ตันต่อเดือน และมียอดขายที่ประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี 

ปัจจุบันบริษัทมีเงินที่ได้จาก IPO ประมาณ 1,080 ล้านบาท และกระแสเงินสดในมือ ประมาณ 150 ล้านบาท อีกทั้งยังมีวงเงินระยะยาวจากสถาบันการเงิน ประมาณ 300-400 ล้านบาท โดยวงเงินระยะยาวส่วนใหญ่จะใช้ในการลงทุนจัดซื้อเครื่องจักร เพื่อมาเพิ่มศักยภาพในการผลิตให้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต 1-2 ปีจากนี้

ในด้านแนวโน้มผลประกอบการในปี 68 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตที่ประมาณ 10-15% จากปี 67 รับปัจจัยบวกจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น รวมถึงผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปปรุงสุกส่งออกในกลุ่มลูกค้าเดิมที่ยังเติบโต รวมถึงการขยายฐานลูกค้ารายใหม่ในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจา โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจน และ เริ่มมีคำสั่งซื้อได้ในปี 68