บอส "ณวัฒน์" ย้ำราคาหุ้น SABUY ร่วง ไม่กระทบงบไตรมาส 2 มั่นใจปี 67 โตเกิน 100%

11 มิ.ย. 2567 | 12:03 น.

"ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" มองราคาหุ้น SABUY ร่วง ไม่กระทบผลงาน MGI ไตรมาส 2/67 หลังลงบันทึกด้วยวิธีมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรขาดทุน มองเห็นศักยภาพ ดึงเอา E-Wallet มาต่อยอดธุรกิจ มั่นใจผลงานปี 67 โตเกิน 100%

นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI เปิดเผยว่า การเข้าลงทุนใน บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ซึ่งถือหุ้น 1.7% นั้น แม้ว่าในปัจจุบันราคาหุ้นจะปรับลดลงมาต่อเนื่อง ล่าสุดราคาปิดตลาดวันที่ 11 มิ.ย.67 ที่ระดับ 1.01 บาท จากราคาที่ MGI เข้าซื้อที่หุ้นละ 4.50 บาท เมื่อต้นเดือนเม.ย.67 จำนวน 30 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าลงทุนรวม 135 ล้านบาท ก็มองว่าจะไม่กระทบต่อกำไรของบริษัทในช่วงไตรมาส 2/2567

เนื่องจากบริษัทได้ลงบันทึกด้วยวิธีมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรขาดทุน โดยบันทึกเป็นเงินลงทุนระยะยาว ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานบัญชี TFRS9 บันทึกแบบไม่ขาดทุน และยังมีการปันผลเช่นเหมือนเดิม แบบทุก 6 เดือน ทั้งนี้ บริษัทคาดหวังภายใน 2-3 ปี จะได้รับผลตอบแทนการลงทุนใน SABUY และเชื่อว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ Lightnet Pte. Ltd ภายใต้การนำของนายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ จะเข้ามาช่วยพลิกฟื้นธุรกิจได้ และเดินหน้าการ Synergy ระหว่าง MGI กับ Eco system ของกลุ่ม SABUY ได้

ทั้งนี้ บริษัทมองว่าศักยภาพของ SABUY ยังมีอยู่ วัตถุประสงค์ของ MGI ที่เข้าไปลงทุนใน SABUY เป็นแบบระยะยาว เพราะมองว่าธุรกิจที่มียังสามารถเอามาช่วยต่อยอดธุรกิจและสร้างรายได้เพิ่มให้กับ MGI ได้อีกมากในอนาคต โดยเฉพาะกระเป๋าเงินดิจิทัล (E-Wallet) ซึ่งเดิม SABUY มีใบอนุญาตนี้อยู่แล้ว คาดว่าจะช่วยลดระยะเวลาและขั้นตอนในการขอใบอนุญาต E-wallet กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีเงื่อนไขที่ทุนจดทะเบียนของบริษัทตั้งแต่ 200 ล้านบาทขึ้นไป รวมทั้งระยะเวลาในการเดินเรื่องขอใบอนุญาตที่ต้องใช้เวลาถึง 2-3 ปี

หากว่า E-Wallet แล้วเสร็จก็จะเป็นการต่อยอดระบบ Ecosystem ของธุรกิจบริษัทได้ เช่น แพลตฟอร์ม CRM, Data Base ของลูกค้า และช่องทางต่างๆ ในการจัดจำหน่ายสินค้าของบริษัท โดยบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาแพลตฟอร์ม One Grand ที่แบ่งออกเป็น 4 เฟส โดยในเฟสแรกคาดว่าจะเห็นความชัดเจนไม่เกินสิ้นปี 2567 จะเป็น Content Community เผยแพร่เนื้อหาฟรีคอนเทนต์ต่างๆ ของบริษัท ช่วยลดต้นทุนจากการนำคอนเทนต์ไปเผยแพร่ในช่องทางอื่น เบื้องต้นคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายใน 3 ปี

ในขณะที่ธูรกิจอื่นๆ ของ SABUY ที่ค่อนข้างมีความหลากหลายนั้น ปัจจุบันก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายใหม่อื่นๆ โดยหากว่าธุรกิจใดในเครือ SABUY ไม่ได้อยู่ในโฟกัสของแผนงานใหม่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะจำหน่ายออกไป โดยในระยะแรกอาจจำเป็นต้องมีการตั้งสำรองไว้ก่อนระยะหนึ่ง แต่อย่างไรก็ดี ในเบื้องต้นก็มีนักลงทุนที่สนใจเข้ามาจับจองกันแล้ว จากนี้ไปก็ต้องรอดูที่แผนงานของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ว่าจะวางแผนดำเนินการอย่างไรต่อไป

สำหรับ MGI ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 ยังมั่นในว่าการเติบโตของผลการดำเนินงานยังทำได้ดีในทุกหน่วยธุรกิจ และอาจเห็นการเติบโตที่สูงกว่า 100% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน แรงขับเคลื่อนหลักมาจากทั้งธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน ที่ศิลปินในความดูแลมีการรับงานพรีเซนเตอร์ที่มากขึ้น มีงานด้านการแสดงเข้ามาเพิ่ม รวมถึงมีการปรับขึ้นค่าตัวการออกงานของศิลปิน ทำให้มีการรับรู้รายได้จากส่วนนี้เข้ามาได้เพิ่ม

นอกจากนี้ บริษัทได้ปิดดีลสปอนเซอร์เวทีมิสแกรนด์ 2024 ไปแล้ว มูลค่ากว่า 88 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 2/2567 ขณะที่ธุรกิจการขายสินค้ายังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 2/2567 บริษัททำสถิติการขายสินค้าผ่านช่องทางแพลตฟอร์ม TikTok กว่า 45 ล้านบาทภายใน 2 เดือน นับว่าเป็นสถิติสูงสุดใหม่ ล่าสุดได้ขยายไปสู่การรับจ้างขายสินค้าของแบรนด์อื่น รวมทั้งยังมุ่งหน้าขยายสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น บะหมี้กึ่งสำเร็จรูป และสินค้าเกี่ยวกับการบริโภคอีกหลายรายการ ดังนั้น ทไให้บริษัทจึงยังคงเป้ายอดขายในปี 2567 จะมีการเติบโตที่มากกว่า 100% แน่นอน