ราคาหุ้น NEX ร่วง 24.64% เมื่อเวลา 15.43 น. มาอยู่ที่ 2.08 บาท ลดลง 0.68 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 665 ล้านบาท หลังเปิดซื้อขายที่ 2.66 บาท ราคาระหว่างวันสูงสุดที่ 2.68 บาท และต่ำสุดที่ 2.06 บาท
นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน การออกและเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement : PP ) การออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Warrant for Private Placement) การออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering)
โดยมีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 พิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 8,837,309,596 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 2,021,827,399 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 10,859,136,995 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 8,837,309,596 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท แบบกำหนดวัตถุประสงค์ เพื่อรองรับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้กับ
บริษัทจะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 75,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 3.76 ของทุนชำระแล้วของบริษัทฯ ภายหลังการเพิ่มทุนชำระแล้ว จัดสรรให้แก่ผู้สนใจลงทุน ซึ่งสามารถส่งเสริมเกื้อกูลต่อธุรกิจทั้งในปัจจุบันและโครงการในอนาคตของบริษัทฯ ได้ โดยจะเข้ามาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (business partner) และมีบทบาทในการส่งเสริมการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้บรรลุตามแผนงานได้ โดยบริษัทฯ อาจจัดสรรในคราวเดียว หรือหลายคราวได้ กำหนดราคาหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ 2.55 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกินกว่า 191,250,000 บาท
พร้อมกันนั้น จะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนเพื่อรองรับการออกและเสนอขาย"ใบสำคัญแสดงสิทธิ" ที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่จัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวนไม่เกิน 75,000,000 หน่วย และมีอัตราการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงการใช้สิทธิ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 5 หุ้นสามัญ โดยใบสำคัญแสดงสิทธิจะมีอายุ 3 ปี ระยะเวลาการใช้สิทธิทุกๆ 6 เดือน ราคาใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิหน่วยละ 12.75 บาท ต่อหน่วย
และจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนเพื่อรองรับการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ให้แก่"ผู้ถือหุ้นเดิม" ตามสัดส่วนราคาหุ้นละ 1 บาท โดยการจัดสรรหุ้นจะดำเนินการ 2 ครั้ง ซึ่งกำหนดในอัตราส่วนดังนี้ ครั้งที่ 1 กำหนดอัตราส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ และ ครั้งที่ 2 กำหนดอัตราส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 1.5 หุ้นใหม่