HENG ออกหุ้นกู้ 2 ชุด ดอกเบี้ย 5.25% -5.50% ต่อปี เปิดขาย 23-27 พ.ค.นี้

21 พ.ค. 2567 | 06:17 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ค. 2567 | 06:18 น.

"บมจ. เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล" หรือ HENG เสนอขายหุ้นกู้ 2 ชุด อายุ 1 ปี 6 เดือน และ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที้ 5.25% และ 5.50% ตามลำดับ วงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ให้แก่นักลงทุนสถาบัน และ/หรือ นักลงทุนรายใหญ่ จองซื้อ 23-27 พ.ค. 2567

นายวิชัย ศุภสาธิตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ HENG หนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายใหญ่ของประเทศไทยภายใต้แบรนด์ "เฮงลิสซิ่ง" เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีประกันของบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2567 จำนวน 2 ชุด วงเงินรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็น

  • หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 1 ปี 6 เดือน กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.25% ครบกำหนดอายุไถ่ถอนในปี 2568 และ
  • หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.50% ครบกำหนดอายุไถ่ถอนในปี 2570

 

 

กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานภายในปี 2568 ล่าสุด ได้รับการอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ หุ้นกู้ทั้ง 2 ชุด จะเสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบัน และ/หรือ นักลงทุนรายใหญ่ที่ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท จองขั้นต่ำ 100 หน่วย ที่จะเปิดให้จองซื้อได้ในวันที่ 23-24 และวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด
 

หุ้นกู้ HENG ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัททริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2566 ที่อันดับ "BBB" เนื่องจากบริษัทฯ มีพื้นฐานการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งจากขีดความสามารถการแข่งขันในการเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อให้แก่ประชาชน ด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่มีความหลากหลายและจำนวนสาขา ณ สิ้นปี 2566 รวมกัน 872 สาขา ที่ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ และแผนขยายสาขาเพิ่มเป็น 1,018 สาขาในปีนี้ เพื่อยกระดับศักยภาพการให้บริการสินเชื่อ และเพื่อตอบสนองความต้องการแหล่งเงินทุนนำไปใช้ในการทำธุรกิจ

ประกอบกับมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 1.89 เท่า (ณ สิ้นปี 2566) ทำให้ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง รวมถึงการออกและเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ ภายในปี 2567 โดยมีแผนงานมุ่งขยายพอร์ตผลิตภัณฑ์สินเชื่อจำนำทะเบียนรถในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ที่ต้องการเงินทุนเพื่อนำไปประกอบอาชีพ และเป็นกลุ่มที่มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ช่วยให้ลดความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระและลดปัญหาหนี้สงสัยจะสูญ (NPLs) ให้ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมการบริหารจัดการคุณภาพพอร์ตสินเชื่อโดยรวมที่ดีขึ้นอีกด้วย