จากกรณีที่ทางสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง ( ป.ย.ป.) ได้มีการเปิดรับฟังความเห็นการแก้ไขกฎหมายล้มละลาย เพื่อเปิดทางให้คนที่ศาลเคยพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายจากภาวะเศรษฐกิจ ที่ไม่ใช่บุคคลล้มละลายจากการทุจริต สามารถดำรงตำแหน่งสำคัญในภาคเอกชน อาทิ ประธานกรรมการ ก.ล.ต. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เลขาธิการ ก.ล.ต. บริษัทหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงข้าราชการ อาทิ อธิการบดี นายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัย
ดร.สมโภชน์ วัลยะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SFLEX เปิดเผยว่า โดยส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่ดี หากจะปลดล็อกข้อจำกัดในการประกอบอาชีพให้กับบุคลล้มละลาย โดยเฉพาะคนที่คิดดี ทำดี และมีการทำเพื่อสังคม เป็นเรื่องที่ไม่ได้น่าเกลียดหากจะให้โอกาสบุคคลเหล่านี้อีกครั้ง แต่ก็ต้องดูด้วยว่าสาเหตุของการล้มลายลายมาจากปัจจัยอะไร ซึ่งแน่นอนว่าต้องไม่ใช่ช่อโกง หรือทุจริต รวมถึงบุคคลดังกล่าวก็ทำให้เห็นด้วยว่ามีการกลับตัวกลับใจ คิดได้แล้วจริง และจะไม่มีการกลับมากระทำผิดแบบเดิมซ้ำอีก
ดังนั้น มองว่าอีกจุดสำคัญที่สุดในตอนนี้ที่ควรพิจารณาร่วมไปด้วย คือ การป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นซ้ำในอนาคต ภาครัฐอาจต้องกลับมาช่วยกันอุดรูโหว่ทางกฎหมายที่มีอยู่มากมาย และต้องมีการเพิ่มมาตรการ หรือบทลงโทษ ที่รวดเร็ว รุนแรง และเด็ดขาด เพิ่มมากขึ้น เพราะต้องยอมรับว่ากฎหมายประเทศไทยในปัจจุบันบางข้อก็ยังไม่ได้สมเหตุสมผลเท่าที่ควรจะเป็น และบ้างครั้งก็เป็นการปกป้องคนกระทำผิดเสียมากกว่าผู้ถูกกระทำ
"เราไม่ควรโดนตัดช่องทางทำมาหากิน เพียงแต่ก็ไม่อยากให้ใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวกลับมามีลู่ทางในการกระทำผิดซ้ำๆ โดยที่บทลงโทษก็เบาแสนเบาเช่นนี้ต่อไป บทเรียนเราก็มีอยู่มาก คดีช่อโกง คดีทุจริต แอ็คชั่นแต่ละส่วนงานกว่าจะดำเนินการได้ คนผิดก็ไปถึงไหนต่อไหนแล้ว"
ด้าน นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO กล่าวว่า มองว่าบุคคลล้มละลายเมื่อศาลท่านพิพากษามาแล้ว ก็จะกลับมาเป็นบุคคลธรรมดา จะให้โอกาสก็คงต้องมาพิจารณากันเป็นรายบุคคลไปว่าล้มละลายมาด้วยสาเหตุอะไร ซึ่งการกลับมาปฎิบัติหน้าที่ก็อาจต้องพิสูจน์ตัวเอง และแน่นอนว่าต้องเป็นที่จับตาของสังคมอยู่แล้ว ทั้งนี้ เมื่อบุคคลล้มละลายมีการชดใช้ความผิดไปตามกระบวนการแล้ว และถูกปลดจากการล้มละลายแล้ว ก็สะท้อนถึงความรับผิดชอบ ความเจตนาที่ดี
การให้โอกาสให้บุคคลเหล่านี้ได้กลับมาประกอบอาชีพ เป็นเรื่องที่ดี เพียงแต่ว่าก็คงต้องดูที่บริบทด้วยว่าเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่าคือ กฎหมายที่จะใช้รองรับมีความรัดกุมมากน้อยแค่ไหน ยกตัวอย่าง หากว่ามีการกระทำผิดซ้ำ กฎหมายจะวางบทลงโทษขั้นเด็ดขาดไว้อย่างไร เพื่อป้องกันการทำผิดซ้ำ และไม่ให้มีผู้เสียหายเกิดขึ้นอีก