DEMCO ปี 67 ชิงประมูลงาน PEA-EGAT กว่า 1.7 หมื่นล้าน

27 มี.ค. 2567 | 04:00 น.

DEMCO ใส่เกียร์ลุยประมูลงาน PEA-EGAT มูลค่ารวมกว่า 1.7 พันล้านบาท คาดหวังได้งานเติมพอร์ตไม่ต่ำกว่า 4 พันล้าน อวดแบ็กล็อก 2.7 พันล้าน คาดรับรู้เป็นรายได้ปี 67 ไม่น้อยกว่า 65%

นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทยังคงเดินหน้าประมูลงานโครงการใหม่ๆ อาทิ งานสายส่งไฟฟ้า งานสถานีไฟฟ้าย่อย งานนำสายไฟฟ้าลงดิน งานบริการซ่อมบำรุงและจำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องในกลุ่มงานดังกล่าว กับหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ PEA MEA และ EGAT รวมถึงภาคเอกชนที่มีการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมและแสงอาทิตย์

โดยคาดการณ์ว่า EGAT จะมีการเปิดประมูลโครงการสายส่งไฟฟ้าและก่อสร้างสถานนี้ไฟฟ้าย่อย ในปี 2567 มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท ส่วน PEA คาดว่าจะเปิดประมูลงานโครงการในปีนี้ประมาณ 7,000 ล้านบาท อีกทั้งยังมีงานนำสายไฟฟ้าลงดินของ MEA ที่จะเปิดประมูลเพื่อขยายพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ เพิ่มเติมอีกด้วย เบื้องต้นบริษัทคาดหวังว่าจะมีโอกาสได้รับงานใหม่เข้ามาเติมพอร์ตเพิ่มไม่น้อยกว่า 4,000 ล้านบาท

ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่รอการทยอยส่งมอบ (Backlog) มูลค่ารวม 2,749 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนออกเป็นงานส่วนวิศวกรรมไฟฟ้า มูลค่า 2,570 ล้านบาท หรือ 94%, งาน Signaling Work & MEIT & Other มูลค่า 169 ล้านบาท หรือ 6% และงาน Design service 4 ล้านบาท หรือ 0.2% โดยมูลค่างานที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นงานโครงการของหน่วยงานภาครัฐ 60% หรือมีมูลค่า 1,643 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 40% เป็นงานภาคเอกชน มูลค่า 1,100 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะรับรู้รายได้จาก Backlog ไม่น้อยกว่า 65% ในปีนี้

นอกจากนี้ บริษัทยังคงมุ่งเน้นเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการศึกษาหาโอกาสลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจหลักและธุรกิจพลังงานสะอาด เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาว โดยในปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลเพื่อดำเนินธุรกิจในด้าน Smart Grid, Micro Grid, Energy Storage Platforms และธุรกิจ EV ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ที่จะช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานของบริษัทมีการเติบโตในอนาคต

สำหรับผลารทุนสุทธิที่เกิดขึ้นในปี 2566 มูลค่า 550 ล้านบาทนั้น หลักๆ เป็นผลมาจากการตั้งด้อยค่าของสินทรัพย์ตามสัญญาสัมปทาน ผลิตและจำหน่ายน้ำประปา เฟซแรก ขนาด 14,400 ลูกบาศก์เมตร ที่หลวงพระบาง ในประเทศลาว ซึ่งจากการประเมิน Fare Value ทั้งอัตราแลกเปลี่ยนเงินกีบที่อ่อนค่าอย่างรุนแรง จาก 230 กีบ/บาท ในช่วงปี 2560 มาอยู่ที่ระดังสูงกว่า 580 กีบ/บาท ในปัจจุบัน และมองว่ายังไม่มีแนวโน้มที่จะกลับคืนสู่สภาวะปกติในระยะอันใกล้ โดยหากว่าไม่ได้มีการขยายการลงทุนเพิ่ม หรือเงินกีบไม่อ่อนค่าลงลึกไปกว่านี้ ก็อาจตั้งด้อยค่าเพิ่มไม่มากเมื่อปีก่อน

อย่างไรก็ดี จากผลกระทบดังกล่าวทำให้บริษัทได้ดำเนินการขอยื่นอายุสัมปทานจาก 30 ปี เพิ่มเป็น 40ปี รวมถึงขอขยายพื้นที่ในการจำหน่ายน้ำประปาเพิ่มเติมในหลวงพระบาง เพื่อเป็นการทดแทนรายได้และผลเก็บเกี่ยวในส่วนที่บริษัทขาดหายไป และเพื่อทดแทนรายได้ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ปริมาณการจำหน่ายน้ำปรับตัวลดลงมากว่าครึ่ง เหลือ 2,000-3,000 ลูกบาศก์เมตร จากก่อนหน้านี้ที่เคยทำได้เฉลี่ยปีละ 7,000-8,000 ลูกบาศก์เมตร