"ทศพล คุณะเพิ่มศิริ" ปักธง DTCENT รายได้โต 25% ลุยเปิด DTC SHOP 10 แห่ง

13 มี.ค. 2567 | 10:41 น.

DTCENT วางเป้ารายได้ปี 67 โต 20-25% จากปีก่อน เร่งเครื่องเปิด DTC SHOP อีก 10 แห่ง หวังขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่ม ฟุ้งบอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 0.048 บาท

นายทศพล คุณะเพิ่มศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ DTCENT ผู้นำในการให้บริการระบบ GPS Tracking อันดับ 1 ในประเทศไทย เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 67 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไว้ที่ระดับ 20-25% จากปีก่อน สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากการขยาย DTC SHOP และออกผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ DTC ชื่อ "DTRACK" อุปกรณ์ GPS รุ่นประหยัดเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายย่อยเพิ่มมากขึ้น

โดยตั้งเป้าหมายเปิด DTC SHOP เพื่อให้บริการครบ 20 แห่งภายในปี 67 นี้ จากเดิมที่เปิดให้บริการแล้ว 10 แห่ง พร้อมจับมือกับผู้ผลิตกล้องติดรถชั้นนำของโลก จำหน่ายกล้องติดรถที่ DTC SHOP สำหรับศูนย์บริหารจัดการและบริการข้อมูลยานพาหนะ Vehicle Monitoring and Support Center  ขณะนี้เปิดใช้งานแล้วและเริ่มทยอยมอนิเตอร์ให้กับลูกค้าแล้วเช่นกัน

ในส่วนของงานด้าน IoT Solutions และระบบ AI  บริษัทฯ วางแผนทำโครงการ Smart City Solution,  Smart AI Solution  ให้กับลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีความสนใจ ปัจจุบันได้รับงานโครงการระบบ AI เพื่อบริหารจัดการเครื่องสูบน้ำ ของสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร  สำหรับระบบ BAMS (Business Activity Management System) เปิดให้บริการบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเรียบร้อยแล้ว มีจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการ 45 บริษัท 

พร้อมกันนี้ ปัจจุบันบริษัทได้รับใบ Certificate  IATF 16949 ระบบมาตรฐานการจัดการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับผู้ผลิตยานยนต์ เรียบร้อยแล้ว และสามารถเริ่มงาน OEM สำหรับอุปกรณ์ GPS Tracking และ Telematics ได้ในทันที รวมถึงความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ กับ บริษัท ยาซากิ เอ็นเนอร์จี ซิสเท็ม คอร์ปอเรชั่น (YES) จะสามารถเริ่มงาน OEM สำหรับอุปกรณ์ GPS Tracking และ Telematics ได้ในปี 68 ส่วนบริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด (BRS) ขณะนี้ เริ่มมีการติดตั้งอุปกรณ์ GPS Tracking ให้กับรถขนส่งสินค้า ในกลุ่มของ บริษัทบุญรอดฯ และมีความร่วมมือในการทำงานโครงการของหน่วยงานภาครัฐ

สำหรับผลการดำเนินงานรวมประจำปี 2566 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566) บริษัทมีกำไรสุทธิ 99.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91.65% เทียบกับปีก่อน มีกำไรสุทธิ 51.98 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ และมีรายได้รวม 729.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.70% เทียบกับปีก่อน มีรายได้รวม 641.59 ล้านบาท

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 มีมติเห็นชอบให้จ่ายปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 20 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ปันผล และจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.0485073 บาทต่อหุ้น (รวมภาษี หัก ณ ที่ จ่ายออกให้) จากผลการดำเนินงานประจำปี 2566 ซึ่งวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 และกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 20 พฤษภาคม 2567