นายศักดิ์ชัย ธรรมสุรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายเพิ่มคุณค่าให้ธุรกิจ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2567 มีโอกาสที่จะพลิกกลับมามีกำไรได้และสามารถเติบโตได้ดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบันค่าการกลั่น (GRM) ในตลาดสิงคโปร์ดีดตัวเพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้โรงกลั่นของบริษัทมีการเดินเครื่องเต็มที่
ทำให้มาจิ้นในช่วงไตรมาส 1/2567 น่าจะมีการเติบโตได้แบบแข็งแกร่ง และคาดว่าแนวโน้มค่าการกลั่นในช่วงไตรมาสที่ 2-4/2567 ไม่น่าจะปรับตัวลดลงต่ำกว่าเมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ ทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดดูไบปีนี้ที่ฟื้นตัวขึ้นมา ซึ่งหากยังคงทรงตัวในระดับสูงก็จะหนุนให้บริษัทพลิกกลับมามีกำไรจากสต็อกน้ำมัน (Stock Gain) ในงวดไตรมาส 1/2567 แล้ว เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 4/2566 ที่บริษัทมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน (Stock Loss)
สำหรับงบลงทุนปี 2567 นี้ บริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 40-50 ล้านเหรียญ ซึ่งการลงทุนหลักๆ ในปีนี้จะเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพและขยายกำลังการกลั่นของบริษัท และเพิ่มประสิทธิภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์โรงกลั่น และสร้างความมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมถึงการลงทุนในโครงการด้านสิ่งแวดล้อมที่ต้องได้มาตรฐานต่างๆ
ภาพรวมอุตสาหกรรมในปี 2567 มองว่าประเทศจีน ยังคงเป็นประเทศหลักที่ขับเคลื่อนความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันจากจีนยังเพิ่มขึ้น แต่เพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่ลดลงเมื่เทียบกับปีก่อน หลักๆ เป้นน้ำมันเจ็ท และเบนซิน และอินเดีย คาดความต้องการใช้ดีเซลและเบนซิน จะมีเข้ามามากขึ้น โดยอินเดียเป็นประเทศอันดับ 2 ที่มีผลต่อความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก ส่วนประเทศอื่นๆ เจ็ทและดีเซลยังคงเป้นที่ต้องการจากนานาประเทศ ดีมานด์ใช้ร้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 1.6 ล้านบาร์เรล/วัน
ซัพพรายจาก Non-Opec จะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสหรัฐฯและแคนนาดา ซึ่งหักลบกับนโยบายของกลุ่ม OPEC ที่ต้องการลดกำลังการผลิต ส่งผลให้คาดการณ์ว่าซัพพรายทั่วโลกเพิ่มในปี 2567 ที่ 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน จะเห้นได้ว่าแนวโน้มซํพพรายจะสูงกว่าดีมานด์
ทั้งนี้ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในช่วงไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ระดับราว 75-80 เหรียญ/บาร์เรล จากไตรมาส 4/2566 ที่ระดับเฉลี่ย 84 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งคาดว่าทรงตัวในระดับที่สูงต่อเนื่องจากการที่กลุ่ม OPEC+ ยังคงนโยบายลดกำลังการผลิตน้ำมัน ขณะที่ crude premium อิงจาก Murban OSP ในช่วงไตรมาส 1/2567 เริ่มปรับตัวลดลงราคาเฉลี่ยอยู่ที่ระดับราว 1.5 เหรียญ/บาร์เรล
ด้าน crack ของน้ำมันเบนซิน ในไตรมาส 1/2567 คาดว่าราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับ 18 เหรียญ/บาร์เรล แรงหนุนจากดีมานด์ช่วงตรุษจีนที่เข้ามาค่อนข้างเยอะ โดย crack ของน้ำมันเบนซิน มีแนวโน้มได้รับแรงกดดันจากโอกาสการส่งออกน้ำมันของประเทศจีนที่จะเข้ามาในไตรมาส 1/2567 นี้ ขณะที่ crack ของน้ำมันอากาศยาน (Jet) และ ดีเซล ในช่วงไตรมาส 1/2567 คาดว่าเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 23-24 เหรียญ/บาร์เรล อยู่ในระดับที่สูง