KEY
POINTS
ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (23 ม.ค. 2567) ปิดตลาดที่ระดับ 1,356.54 จุด ปรับตัวลดลง 13.38 จุด หรือ -0.98% โดยราคาเปิดตลาดเช้าวันนี้อยู่ที่ระดับ 1,373.62 จุด ซึ่งในช่วงระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,375.76 จุด ก่อนจะปรับตัวลดลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,352.48 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 48,638.21 ล้านบาท
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า จากการดิ่งลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ที่ระดับ 1,352.48 จุด นับว่าเป็น New low ใหม่ ต่ำกว่าจุดต่ำสุดเดิมในช่วงเดือนธันวาคม 2566 ที่เคยทำไว้ 1,354 จุด และนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้กรอบ 1,365-1,350 จุด สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการประกาศงบของกลุ่มแบงก์ที่ทิศทางของกำไรต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์กันไว้ถึง 7% ทำให้นักวิเคราะห์ออกมาทยอยปรับราคาเป้าหมายลง ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น
นอกจากนี้ จากตัวเลขคาดการณ์ GDP ไทย ที่หลุดออกมาว่าอาจมีการเติบโตในระดับที่ 1.8% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้อยู่ที่ระดับ 2% นอกจากนี้ Fundflow ต่างชาติยังคงเห็นแรงการขายออกอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ 1 ม.ค. มาจนถึงปัจจุบัน มีมูลค่าสูงกว่า 2.1 หมื่นล้านบาทแล้ว ประกอบกับเงินบาทที่อ่อนค่าลง เป็นอีกแรงกดดันเพิ่มเติมในการลงทุน อีกทั้งโปรแกรมเทรดดิ้ง ยังเห็นสัญญาณเม็ดเงินยังค่อนข้างเยอะ บางวัดกินสัดส่วนไปเกินกว่าครึ่งของการซื้อขายรวมด้วยซ้ำ เหมือนเป็นฟันเฟืองที่เพิ่มความรุนแรงของบรรยากาศการลงทุน
กลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่ตลาดฯขาดความเชื่อมั่น ให้มองการเลานในหุ้นรายตัว ดูผลประกอบการในไตรมาส 4/2566 ที่มีแนวโน้มจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นขนาดกลาง เพราะจะไม่โดน Fundflow เทขายหนักเหมือนหุ้นไซส์ใหญ่ โดยแนะนำ MASTER ที่คาดว่ากำไรในไตรมาส 4/2566 จะอยู่ที่ 127 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ 90 ล้านบาท, SPA ที่ได้รับอานิสงส์ของการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีขึ้น และ COCOCO ที่คาดว่ากำไรไตรมาส 4/2566 จะทำ All time high
สำหรับกรอบดัชนีแนวรับถัดไปคาดการณ์อยู่ที่ 1,320 จุด อย่างไรก็ดี รอดูผลประกอบการของหุ้นไซส์ใหญ่ เพราะเป็นกลุ่มที่มีหน้าหุ้นพอที่จะช่วยผลักดันดัชนี SET ให้กลับมาดีดขึ้นได้ หากว่าเป็นในทิศทางเชิงบวก