KTC กำไรสุทธิพุ่ง 7.29 พันล้านบาท พอร์ตคงค้างโต 7.8%

19 ม.ค. 2567 | 13:38 น.

KTC โชว์ฟอร์มปี 66 เด่น กำไรสุทธิทะยาน 7.29 พันล้านบาท พอร์ตคงค้างยืนเหนือ 1.12 แสนล้านบาท ขยายตัว 7.8% จากปีก่อน ตามอุปสงค์การใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ขณะที่ NPL อยู่ที่ 2.2% และรายได้รวมเติบโตที่ 9.4%

บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับปี 2566 อยู่ที่ 7,295 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.1% จากงวดเดียวกันของปี 2565 ที่ 7,079 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิเฉพาะกิจการของบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) อยู่ที่ 7,241 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 7,140 ล้านบาท

ณ สิ้นปี 2566 เคทีซีมีมูลค่าพอร์ตรวมอยู่ที่ 112,346 ล้านบาท ขยายตัว 7.8% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน จากภาพรวมของเศรษฐกิจไทยที่ทยอยฟื้นตัว ปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน พอร์ตบัตรเครดิตยังคงขยายตัวได้ตามปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรที่เพิ่มขึ้น จากอุปสงค์การใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

KTC ภายใต้ ‘พิทยา วรปัญญา’ ลุยทำกำไรต่อเนื่องทุกปี

ขณะที่พอร์ตสินเชื่อ KTC PROUD เพิ่มขึ้นไม่มากนัก ด้านสินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ยอดสินเชื่อใหม่สำหรับปี 2566 มีมูลค่าทั้งสิ้น 2,590 ล้านบาท เคทีซียังคงเน้นเติบโตพอร์ตควบคู่กับการคัดกรองคุณภาพภายใต้ระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมและยอมรับได้

กลุ่มบริษัทมีรายได้รวมเติบโตที่ 9.4% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน จากรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ค่าธรรมเนียม ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 14.0% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน มาจากค่าใช้จ่ายในการบริหาร หลักๆ เพิ่มขึ้นจากค่าธรรมเนียมจ่ายจากปริมาณธุรกรรมที่ขยายตัว มูลค่ารวมผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) เพิ่มขึ้นจากการตั้งสำรองสูงขึ้น และต้นทุนทางการเงินปรับขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงิน

ในปี 2566 กลุ่มบริษัทมีอัตราการขยายตัวของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรที่ 11.4% ด้วยพอร์ตสินเชื่อรวมที่เติบโต 7.8% โดยพอร์ตบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลขยายตัวที่ 7.2% และ 7.5% ตามลำดับ NPL ของงบเฉพาะกิจการอยู่ที่ 1.7% และ NPL Coverage Ratio อยู่ที่ 476.4% 

ด้าน NPL ของกลุ่มบริษัทอยู่ที่ 2.2% และ NPL Coverage Ratio อยู่ที่ 400.3% จากปีก่อนที่ 1.8% และ 476.3% ตามลำดับ ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า แม้จะมีเปอร์เซ็นต์สูงขึ้นบ้างเมื่อเทียบกับปี 2565 จากพอร์ตลูกหนี้ สัญญาเช่าและตามสภาวะเศรษฐกิจที่มีความกดดันอย่างต่อเนื่อง แต่ยังอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้

ในปี 2567 เคทีซีวางเป้าเติบโตในธุรกิจหลักทั้ง 3 ส่วน คือ ธุรกิจบัตรเครดิต สินเชื่อ KTC PROUD และสินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน เนื่องด้วยเชื่อว่ายังมีความต้องการของสินเชื่อแต่ละประเภทอยู่ อีกทั้งจะส่งเสริมธุรกิจ MAAI by KTC ให้เติบโตมากขึ้นอันเป็นธุรกิจให้บริการระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า บริษัทจะเน้น 3 องค์ประกอบหลัก คือ คน กระบวนการ และเทคโนโลยี ที่พร้อมเพิ่ม
ประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์และบริการ ทั้งนี้ มีเป้าหมายการทำกำไรให้เพิ่มขึ้นสูงกว่าปี 2566 ดูแลการเติบโตของพอร์ตรวมที่ขยายตัวมากขึ้นภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้อย่างเหมาะสม