ผถห.NUSA "ประเดช" นำทีมฟ้องบอร์ด สกัดแผนขายทรัพย์สินกว่าหมื่นล้าน

26 ธ.ค. 2566 | 07:25 น.

NUSA เผยผู้ถือหุ้นนำทีม โดย"ประเดช กิตติอิสรานนท์" ฟ้องแพ่งบริษัทและบอร์ดรวม 8 คน เพื่อขอให้เพิกถอนมติที่ประชุมวาระ "จําหน่ายทรัพย์สิน 6 รายการ" ยันยังเป็นเพียงวาระเสนอเพื่อขออนุมัติ มิใช่การจําหน่ายในทางปฏิบัติ

วันนี้ (26 ธ.ค.66 ) นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานกรรมการบริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ฝ่ายบริหารของบริษัทฯ ได้รับหมายเรียกและสําเนาคําฟ้อง จากนายประเดช กิตติอิสรานนท์ กับพวกรวม 6 คน โจทก์ฟ้อง NUSA และกรรมการ รวม 8 คน เป็นจําเลย ในคดีแพ่ง เลขคดีดําที่ พ 6055/2566 ลงวันที่ 19 ธันวาคม 2566 โดยวิธีปิดหมาย ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2566 

โดยวัตถุประสงค์ขอให้เพิกถอนมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 12/2566 ลงวันที่ 7 ธันวาคม 2566 วาระ 5.1 เรื่องการขายหรือจําหน่ายทรัพย์สิน 6 รายการ และห้ามจําหน่ายนั้น

ฝ่ายบริหารของบริษัทฯ ขอเรียนให้ทราบ ดังนี้

  • ข้อ 1 คดีดังกล่าว ศาลแพ่งได้กําหนดนัดพิจารณาชี้สองสถาน เพื่อกําหนดประเด็นข้อพิพาทในคดีในวันที่ 4 มีนาคม 2567 เวลา 13.30 น. ซึ่งฝ่ายบริหารอยู่ระหว่างการมอบหมายฝ่ายกฎหมายและทีมทนายความดําเนินการต่อไป
  • ข้อ 2 ประเด็นคําฟ้องของโจทก์ในคดีดังกล่าว ขัดแย้งกับรายงานการประชุม ซึ่งฝ่ายบริหารได้จัดทํารายงานการประชุมตามบันทึกภาพและเสียงการประชุม โดยฝ่ายบริหารฯ ได้เสนอจําหน่ายทรัพย์สิน เพื่อลดภาระหนี้สิน ประกอบกับราคาหุ้นของบริษัทฯ มีอัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าบัญชีเพียงร้อยละ 40 โดยเฉลี่ย 

 

ทั้งนี้การเสนอวาระพิจารณาการจําหน่ายทรัพย์สินเป็นเพียงการเสนอเพื่อขออนุมัติหลักการ มิใช่การจําหน่ายในทางปฏิบัติเพราะฝ่ายบริหารฯ ต้องทําการสํารวจความต้องการของผู้ซื้อ จากนั้นจะคัดเลือกสินทรัพย์ประมาณ 1 หรือ 2 รายการเพื่อทําการขายโดยเปิดเผย ตามขั้นตอน ระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นการขายสินทรัพย์ที่ยังไม่ได้ดําเนินการในการขาย ย่อมไม่เป็นการลิดรอนสิทธิของโจทก์ในฐานะผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ แต่อย่างใด คดีฟ้องของโจทก์จึงไม่มีมูล

 

ผถห.NUSA \"ประเดช\" นำทีมฟ้องบอร์ด สกัดแผนขายทรัพย์สินกว่าหมื่นล้าน

วันเดียวกัน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อย NUSA ได้รวมตัวเพื่อยื่นหนังสือต่อ DSI ขอให้ตรวจสอบกรรมการบริษัทเนื่องจากเชื่อว่าดำเนินการไม่โปร่งใสในการอนุมัติให้ผู้บริหารขายทรัพย์สินของบริษัทออกไป 6 รายการ เป็นมูลค่ากว่า 1.1 หมื่นล้านบาท หรือเกือบ 70% ของทรัพย์สินทั้งหมดของบริษัท ซึ่งกรรมการฝั่งของนายประเดช กิตติอิสรานนท์ หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีกับกรรมการที่ดำเนินการดังกล่าวไปแล้ว

นายเสรี หัตถะรัชต์ ตัวแทนกลุ่ม กล่าวว่า ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้รับความเสียหายจากการลงทุนใน NUSA เพราะการอนุมัติขายสินทรัพย์ครั้งใหญ่นี้จะกระทบต่อบริษัทอย่างมหาศาล โดยยังไม่ได้แจ้ง หรือจัดการประชุมให้ผู้ถือหุ้นได้รับทราบ หรืออนุมัติ เชื่อว่าเป็นการปกปิดธุรกรรมอันมีสาระสำคัญ อาจเข้าข่ายหลอกลวงนักลงทุน ละเมิดสิทธิผู้ถือหุ้น และยังเข้าข่ายผิดพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535

"หากหน่วยงานรัฐไม่ช่วยยับยั้งการกระทำดังกล่าวโดยเร็ว หากเกิดความเสียหาย จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง เพราะมีผู้ถือหุ้นรายย่อยใน NUSA เกือบ 1 หมื่นราย ในจำนวนนี้มีผู้ถือหุ้นมากมายที่เข้ามาลงทุนใน NUSA เพราะเชื่อตามที่ฝ่ายบริหารนำเสนอว่าบริษัทจะเข้าสู่ธุรกิจพลังงาน จะมีรายได้ที่มั่นคง นักลงทุนก็คล้อยตาม เพราะช่วงไวรัสโควิด-19 ธุรกิจพลังงานแทบไม่ได้รับผลกระทบ จึงพากันเข้ามาลงทุน แต่มาวันนี้กลับมีมติขายธุรกิจพลังงานทิ้งทั้งหมด โดยไม่แจ้งผู้ถือหุ้น แบบนี้เข้าข่ายหลอกลวงนักลงทุนหรือไม่" นายเสรี กล่าวและว่าต่อ

"นักลงทุนรายย่อยไม่เชื่อมั่นในกระบวนการขายทรัพย์สินว่าจะเป็นไปอย่างโปร่งใส เพราะจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาผู้บริหาร NUSA มักถูกหน่วยงานกำกับดูแลทั้งผู้ตรวจสอบบัญชี สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เรียกชี้แจงบ่อยครั้ง กรณีล่าสุดที่ผู้บริหาร NUSA นำโครงการอสังหาฯ ของบริษัทไปขายให้กับบริษัทที่มีญาติเป็นกรรมการในราคาต่ำกว่าตลาด ,เรื่องการเข้าซื้อธุรกิจโรงแรม Panacee Grand Hotel Roemerbad ในประเทศเยอรมนี จ่ายเงินไปแล้ว 711 ล้านบาท จากทั้งหมด 740 ล้านบาท แต่ผู้รับเงินไม่ใช่เจ้าของโรงแรม มีความผิดปกติหรือไม่ และภายหลังมาประกาศเปลี่ยนจากซื้อธุรกิจโรงแรมเป็นการซื้อหุ้นบริษัทที่เป็นเจ้าของโรงแรมแทน ทั้งที่จ่ายเงินไปแล้ว ผลลัพธ์ตอนนี้ NUSA เลยได้หุ้นบริษัทเยอรมันที่มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน 407 ล้านบาท ขณะที่โรงแรมยังเปิดบริการไม่ได้ จึงไม่มีรายได้"

นายเสรี กล่าวอีกว่า เชื่อว่าการดำเนินธุรกรรมหลายรายการที่ผ่านมาอาจเข้าข่ายไม่โปร่งใส จนถูกเรียกชี้แจงบ่อยครั้ง และเชื่อว่าเหตุการณ์เหล่านั้นอาจมีส่วนทำให้ NUSA ขาดทุนติดต่อกันยาวนานถึง 8 ปี มีผลขาดทุนสะสมมากกว่า 3 พันล้านบาท

ผู้ถือหุ้น 10 รายแรกของ NUSA (ณ วันที่ 18 ต.ค.2566)

  • บริษัท ธนา พาวเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด 24.98%
  • นาย ประเดช กิตติอิสรานนท์  8.70%
  • บริษัท ดีดี มาร์ท โฮลดิ้ง จำกัด 7.75%
  • น.ส. นันทิดา กิตติอิสรานนท์ 4.03%
  • น.ส. เจนจิรา กิตติอิสรานนท์ 3.64%
  • บริษัท อินเตอร์-ไฮ (ประเทศไทย) 2011 จำกัด 3.52%
  • นาย ไพโรจน์ ศิริรัตน์  2.78%
  • นาย วิษณุ เทพเจริญ  2.75%
  • น.ส. อาทิกา ท่อแก้ว  2.40%
  • นาย วงศกร เทพเจริญ 2.18%