“พรีโม” (PRI) คาดเข้าเทรดตลาดmai 30 พ.ย.นี้

27 พ.ย. 2565 | 04:43 น.

“พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น” หรือ PRI คาดนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดmai 30 พ.ย. หลังนักลงทุนตอบรับจองซื้อหุ้น IPO คึกคัก โชว์กำไรสุทธิ 9 เดือนแรก เติบก้าวกระโดด 128.17%

 

นางสาวจตุพร วิไลแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ PRI เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดว่า จะนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai)  ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ หลังจากที่ได้รับการตอบรับอย่างคึกคักจากนักลงทุนในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO)ระหว่าง 22-24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลให้สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมาย

 

นางสาวจตุพร วิไลแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน)

 

นักลงทุนสนใจซื้อหุ้น IPO  อย่างคึกคัก แสดงถึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุนที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานและศักยภาพการดำเนินงานของบริษัทฯ ซึ่ง PRI มีจุดเด่นที่แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นในธุรกิจ โดยเป็นผู้ให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร (วันสต็อปเซอร์วิส) ครอบคลุมธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม ได้แก่

  • ธุรกิจที่ปรึกษาและออกแบบทางวิศวกรรม (Pre-Living Services) เช่น บริการที่ปรึกษาและควบคุมงานก่อสร้าง, บริการออกแบบสถาปัตยกรรม งานวิศวกรรมโครงสร้าง
  • ธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Living Services) เช่น การรับบริหารนิติบุคคลอาคารชุด บ้านจัดสรร อาคารสำนักงาน, จัดหาผู้เช่าห้องชุด, รับบริหารจัดการอสังหาฯ เพื่อเช่าระยะยาว 
  • ธุรกิจให้บริการหลังการขายอสังหาริมทรัพย์ (Living & Earning Services) เช่น บริการออกแบบตกแต่งภายใน, ตกแต่งพื้นที่ส่วนกลางและสำนักงานขายโครงการอสังหาฯ, ทำความสะอาดภายในที่พักอาศัย, บริการช่างและขนย้ายสิ่งของ 

 

ดังนั้น จึงสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าโครงการได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่การเป็นที่ปรึกษา หาผู้ร่วมทุน ออกแบบก่อสร้าง จนถึงการโอนกรรมสิทธิ์และให้บริการหลังการขาย รวมถึงมีบริการด้านการ อยู่อาศัยที่หลากหลายแก่ลูกค้ารายย่อยเพื่อตอบโจทย์และเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต และยังมีฐานลูกค้าจากบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ และมีรายได้อย่างสม่ำเสมอจากสัญญาให้บริการในระยะยาวและการให้บริการเป็นรายครั้ง

 

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้วางแผนขยายธุรกิจด้านการให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง โดยจะมุ่งขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของบริษัทฯ และการลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนการให้บริการ (Tech Service Company) แก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการด้านอสังหาฯ สมัยใหม่แบบครบวงจรและเติบโตอย่างต่อเนื่อง 

 

ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2562 – 2564 มีรายได้รวม 255.69 ล้านบาท 266.51 ล้านบาท และ 489.56 ล้านบาทตามลำดับ เติบโตเฉลี่ย 30.48% ต่อปี และมีกำไรสุทธิ 34.52 ล้านบาท 40.05 ล้านบาท และ 111.25 ล้านบาทตามลำดับ เติบโตเฉลี่ย 74.09% ต่อปี

 

ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 มีรายได้รวม 604.26 ล้านบาท เติบโต 95.92% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 156.02 ล้านบาท เติบโต 128.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน