เศรษฐกิจซบ ดันเช่าซื้อมอเตอร์ไซด์โต 3% ยอดปฏิเสธสินเชื่อเกิน 50%

10 ก.ย. 2568 | 06:38 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ก.ย. 2568 | 06:38 น.

ธุรกิจเช่าซื้อมอเตอร์ไซด์เผย ตลาดฟื้นตัวเล็กน้อย แต่ยังไม่คึกคัก ยอดปฏิเสธสินเชื่อเกิน 50%  ลุ้นครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจชะลอ กำลังซื้อเน้นประหยัด เดลิเวอร์รี่เริ่มกลับ ดันยอดดขายรถมอเตอร์ไซต์โต 2-3%

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานสินเชื่อการซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ไตรมาส 2ปี 2568 พบว่า มียอดคงค้าง 999,435 ล้านบาท ลดลง 21,580 ล้านบาทหรือ 2.11% จากไตรมาสก่อนหน้า(%QoQ) แต่ลดลง 122,653 ล้านบาทหรือ 10.09% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (%YoY) 

นายมงคล เพียรพิทักษ์กิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด และนายกสมาคมธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ยอดขายรถจักรยานยนต์ครึ่งแรกปี 2568 อยู่ที่ 9.1แสนคันขยับขึ้นเล็กน้อยที่ 1.0% จากปีก่อนที่มียอดขาย 9.01แสนคัน ราคาเฉลี่ยต่อคัน 40,000-70,000 บาท

ในจำนวน 9.1แสนคันคาดว่า จะใช้บริการเช่าซื้อ 70% หรือราว 6.3 แสนคัน และเป็นการใช้บริการสินเชื่อเช่าซื้อในกลุ่มบริษัทสมาชิกของสมาคมธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ราว 50-60%
 

สำหรับแนวโน้มครึ่งปีหลังคาดว่า ตลาดรถจักรยานยนต์น่าจะเติบโต 2-3% ส่วนหนึ่งมาจากเศรษฐกิจที่ยังไม่ค่อยดี ทำให้กำลังซื้อส่วนใหญ่เน้นประหยัดค่าใช้จ่าย จึงหันมาใช้รถจักรยานยนต์(มอเตอร์ไซด์)แทน และธุรกิจดิลิเวอร์รี่เริ่มกลับมาในปัจจุบัน ขณะที่ยอดปฏิเสธสินเชื่อลูกค้าใหม่ของสมาคมมากกว่า 50% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 

นายมงคล เพียรพิทักษ์กิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด

“ภาพรวมครึ่งปีหลังมองว่า จะคล้ายกับครึ่งปีแรกที่ทรงตัวไปเรื่อยๆ ขึ้นกับเศรษฐกิจ หากรายได้ลดลงจะมีผลต่อการเพิ่มหรือลดของยอดเช่าซื้อ ส่วนเกณฑ์ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อส่วนใหญ่พยายามช่วยให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซด์ เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพและมีโปรแกรมช่วยเหลือ”

อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินเข้มงวดในขั้นตอนการพิจารณาสินเชื่อ เพราะมอเตอร์ไซด์เป็นเครื่องมือประกอบอาชีพ/ทำมาหากิน กลุ่มเป้าหมายผู้ใช้มอเตอร์ไซด์ส่วนใหญ่มักจะเป็นฐานราก-ชั้นกลาง ประกอบอาชีพอิสระ(ค้าขาย ขนส่ง ขับวิน) ซึ่งไม่มีการเดินบัญชีกับธนาคาร

ดังนั้นการพิจารณาจะดูความเพียงพอของรายได้และความสามารถผ่อนชำระต่องวดหรือมีความตั้งใจเช่าซื้อเพื่อเป็นเครื่องมือทำมาหากินและมีถิ่นอาศัยชัดเจน หากเข้าเกณฑ์ดังกล่าว โอกาสที่จะอนุมัติ 50% 

ทั้งนี้ ช่วงที่เหลือยังมีความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน ผู้ให้บริการเช่าซื้อต่างเฝ้าระมัดระวัง ห่วงผลกระทบทางอ้อมกับลูกค้าเช่าซื้อ เช่น กรณีบริษัทส่งออกได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าสหรัฐอาจส่งผลกระทบต่อการจ้างงานหรือรายได้ของลูกค้ามีความเสี่ยงที่จะปรับลด ไม่ว่าบริษัทลดจ้างทำงานล่วงเวลาหรือไม่จ้างต่อ 

เศรษฐกิจซบ ดันเช่าซื้อมอเตอร์ไซด์โต 3% ยอดปฏิเสธสินเชื่อเกิน 50%

ขณะเดียวกันยังมีกรณีฉ้อฉลที่เป็นประเด็นให้กังวลคือ หลังจากเช่าซื้อมอเตอร์ไซด์ไปแล้วนำไปขายต่อ ซึ่งต้องมอนิเตอร์อย่างต่อเนื่อง 

สำหรับแนวโน้มคุณภาพสินเชื่อในระยะต่อไปน่าจะดีขึ้น จากการบริหารจัดการต้นทุนของบริษัทสมาชิกควบคู่กับการพิจารณาคุณภาพของลูกค้าให้มั่นใจก่อนจะอนุมัติ 

นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน)หรือ TK ให้ข้อมูลต่อ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า  ตลาดรถจักรยานยนต์รวมในครึ่งแรกปี 2568 อยู่ที่ 917,685 คัน เพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับครึ่งแรกปี 2567 ที่มียอดขาย 904,143 คัน 

นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน)

“หากพิจารณายอดขายรถจักรยานยนต์รายเดือนช่วง 6 เดือนแรกปี68พบว่า ยอดขายรายเดือนสูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2567 ทุกเดือน แต่สูงกว่าไม่มาก ยกเว้นเดือนพ.ค.เพียงเดือนเดียว ที่มียอดขายต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน” 

สำหรับภาพรวมปี 2568 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)และผู้ผลิตรายใหญ่คาดการณ์ว่า ตลาดรถจักรยานยนต์น่าจะมียอดขายประมาณ 1.7 – 1.73ล้านคัน ลดลง 0.5% ถึงเพิ่มขึ้น 1.3% จากปี 2567 ที่มียอดขายที่ 1,708,215 คัน 

ทั้งนี้สาเหตุที่ตลาดยังไม่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วเนื่องจาก เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ประกอบกับหนี้ครัวเรือนระดับสูง ซึ่งกระทบกำลังซื้อและความสามารถในการผ่อนของลูกค้า ขณะที่ผู้ประกอบการรอดูรายละเอียดนโยบายการกำกับดูแลใหม่ หลังธปท.เข้ามากำกับธุรกิจเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งผู้ประกอบการต้องปรับตัวและสร้างมาตรฐานการปล่อยกู้ที่เข้มงวดขึ้นในภาพรวม 

นายประพลยังสะท้อนมุมมองตลาดรถจักรยานยนต์และความต้องการใช้สินเชื่อในครึ่งปีหลังว่า ตลาดรถจักรยานยนต์และการปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์อาจจะฟื้นตัวเล็กน้อย แต่ยังไม่กลับไปคึกคักเหมือนก่อนหน้านี้ เนื่องจากยังไม่เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรมชัดเจนจากรัฐบาล 

นอกจากนั้น ผู้ประกอบการยังมีมาตรฐานการปล่อยกู้ที่เข้มงวดขึ้น หนี้ครัวเรือนยังมีผลต่อความสามารถในการจ่ายหนี้ของลูกค้า และสงครามการค้าจากการเก็บภาษีนำเข้าของประเทศสหรัฐอเมริกา 

ด้านคุณภาพสินเชื่อมีความเสี่ยงหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้( NPL) จะสูงขึ้น หากเศรษฐกิจหรือรายได้ของลูกค้าชะลอตัวลง การผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อจะมีมากขึ้น โดยเฉพาะพอร์ตเช่าซื้อที่มีลูกค้ารายย่อย รายได้ไม่แน่นอน  

“ผู้ให้กู้เข้มเงื่อนไข/คัดกรองสูงขึ้น เพราะ NPL เช่าซื้อขยับสูงขึ้นจากฐานสินเชื่อที่หดตัวลง การอนุมัติยากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มรายได้ไม่แน่นอน อนุมัติน้อยลง/วงเงินเล็กลงคุณภาพลูกหนี้เช่าซื้อลดลง แต่ปัจจัยบวกก็มีความต้องการใช้งานรถจักรยานยนต์เพื่อทำมาหากิน /ในบางธุรกิจเช่น เดลิเวอรี่ และการเติบโตของรถไฟจักรยานยนต์ไฟฟ้า มีส่วนช่วยให้ยอดขายเติบโตขึ้นได้”นายประพลกล่าว 

สำหรับกลยุทธ์ทำตลาดนั้น ผู้ปล่อยสินเชื่อเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากยิ่งขึ้น โฟกัสกลุ่ม segment ที่มีรายได้มั่นคง พร้อม ใช้ Digital Technology มาช่วยในการทำงานมากขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกันจัดโปรแกรม restructuring เพื่อให้ลูกค้าสามารถผ่อนจนครบสัญญาได้

ในส่วนของTK เตรียมแผนเพื่อปรับองค์กรในการเข้ามาควบคุมกำกับดูแล และกฎเกณฑ์ใหม่ของ ธปท. ที่จะเข้ามากำกับและบริษัทมีเงินสดพร้อมขยายธุรกิจ 2,883 ล้านบาท โดยที่ไม่ต้องออกหุ้นกู้หรือกู้เงินธนาคารพาณิชย์อย่างน้อย 18-24 เดือน


หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,130 วันที่ 11 - 13 กันยายน พ.ศ. 2568