เบื้องลึก! “ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส” ลูกหม้อแบงก์ชาติ เต็งหนึ่งผู้ว่าธปท.

25 มิ.ย. 2568 | 09:45 น.
อัปเดตล่าสุด :26 มิ.ย. 2568 | 08:22 น.

เปิดเบื้องลึก กระบวนการสรรหา ผู้ว่าธปท. หลังบอร์ดคัดเลือก 2 ชื่อสุดท้าย “วิทัย-ดร.รุ่ง” ก่อนเคาะเหลือ 1 “ดร.รุ่ง” จ่อขึ้นแท่นผู้ว่าธปท. คนใน ในรอบ 15 ปี ผู้ว่าหญิงคนที่ 2 ต่อจาก “ธาริษา วัฒนเกส”

ในที่สุดกระบวนการสรรหาผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) คนใหม่ที่จะเข้ามารับไม้ต่อจากดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. คนที่ 21 ลำดับที่ 24 ที่กำลังจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 30 ก.ย. 2568 ก็สิ้นสุดลง

หลังจากช่วงค่ำวันที่ 24 มิ.ย.2568 คณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการธปท. ที่มีดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ เป็นประธาน ได้พิจารณาคัดเลือกบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ว่าการ ธปท. 2 รายชื่อ จากผู้เข้าแสดงวิสัยทัศน์และสัมภาษณ์ทั้งหมด 6 คน เสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณา

 

สำหรับ 2 รายชื่อที่ผ่านการคัดเลือกคือ

  1. ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท
  2. นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน

ท่ามกลางการคาดเดาไปต่างๆ นานา ชื่อของ “วิทัย รัตนากร” ดูเหมือนจะมาแรงแซงโค้ง หลังเกิดกระแสข่าวว่า ถูกผู้ใหญ่ระดับสูงที่นับถือทาบทามให้ลงสนามสู้ศึกในครั้งนี้ แรกๆ “วิทัย” ดูเหมือนจะแบ่งรับ แบ่งสู้ เพราะยังมีความไม่แน่นอน แถมบุคคลที่ทาบทามเองไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจครั้งนี้

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน

“ด้วยบุคลิกของวิทัยเอง หากไม่มั่นใจอะไร จะไม่ลงสนามแข่งแน่นอน ทำให้หลายฝ่ายจึงมั่นใจว่า วิทัยน่าจะถูกจัดวางในการลงสมัครครั้งนี้ ซึ่งดีลน่าจะลงตัวในช่วงท้ายๆ เพราะวิทัยยื่นใบสมัครเกือบเป็นคนสุดท้าย ก่อนปิดรับสมัครในวันนั้น”

ดังนั้นเมื่อมีชื่อ “วิทัย” ติด 1 ใน 2 ชื่อ จึงทำให้ชื่อนี้ถูกวางเป็นอันดับ 1 ทันที ยิ่งสำทับจากแหล่งข่าวด้วยว่า “ท่านรัฐมนตรีชอบและต้องการคุณวิทัย เพราะทำงานเข้าขากันและเห็นผลงานชัดเจนจากการแก้ไขหนี้ ซึ่งจะเป็นวาระหลักของรัฐบาลต่อไป”

อย่างไรก็ตาม มีคำถามตามมาว่า หากภาพออกมาเช่นนั้น จะทำให้อนาคตของธนาคารกลางของประเทศแยกออกจากการเมืองได้ยาก จะทำให้เกิดคำถามความเป็นอิสระทางการเมืองของธปท.ทันที

นอกจากนั้น แม้มาตรการ “คุณสู้ เราช่วย” ที่เห็นว่า อืดมาก คนเข้าร่วมมาตรการน้อย จนกระทรวงการคลังต้องขยายเวลามาตรการออกไปถึง 2 ครั้ง แต่กลับพบว่า ธนาคารออมสิน ภายใต้การนำของ “วิทัย รัตนากร” สามารถช่วยลูกหนี้ได้จำนวนมาก และความสำเร็จของมาตรการ “คุณสู้ เราช่วย” เกือบทั้งหมดมาจากออมสิน

แต่นั่นก็เกิดคำถามในหมู่คณะกรรมคัดเลือกเช่นกันว่า การทำงานได้ดีในฐานะนักปฎิบัติ ก็ไม่ใช่สิ่งการันตีในฐานะผู้ออกนโยบาย โดยเฉพาะการทำงานในรั้ว วังบางขุนพรหม ที่มีวัฒนธรรมภายในเข้มข้นมาก จะไม่ง่ายเหมือนออมสิน  การออกนโยบายจะไม่ง่ายเหมือนการปฏิบบัติ

“แม้คุณจะเก่งมาจากไหน แต่ถ้าคุณไม่ใช่ดร. การทำงานในดงดร. อย่างแบงก์ชาติจะลำบากมาก และแม้ว่าคุณจบดร.มา ก็ต้องถามอีกว่า ดร.จากไหน จากไทยหรือจากนอก จากนอกจากมหาลัยไหน และเมื่อคุณเป็นคนนอกที่เข้าไปทำงานในแบงก์ชาติ คุณจะถูกครอบเหมือนกับที่เกิดกับผู้ว่าการทั้ง 2 ท่านที่ผ่านมา”

ดังนั้นเมื่อพิจารณาต่างๆแล้ว กรรมการคัดเลือกจึงเห็นว่า “วิทัย” น่าจะอยู่สร้างประโยชน์ให้ธนาคาร ออมสินได้มากกว่า และการไปไม่ถึงฝัน โดยมีคู่เทียบเป็นอีกคนที่มีเส้นทางการเติบโตจากแบงก์ชาติโดยตรง  เข้าใจวัฒนธรรมการทำงานของแบงก์ชาติ และกำกับดูแลสถาบันการเงินมาเป็นอย่างดี น่าจะเป็นทางลงที่สวยงามให้กับ "วิทัย" ได้

ขณะเดียวกัน พลวัตรการเงินโลกที่มีการเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว คนที่จะก้าวขึ้นมานั่งเป็นผู้ว่าธปท.จะต้องตามให้ทันและสามารถติดต่อเชื่อมโยงกับธนาคารกลางทั่วโลกได้ทันท่วงที  

รายชื่อสุดท้ายที่จะเสนอชื่อต่อคณะรัฐมนตรีในวันที่ 1 ก.ค.นี้ตามกำหนดการ จึงเป็นชื่อของ “ดร.รุ่ง” ซึ่งเรื่องนี้ “วิทัย” น่าจะรับรู้มาระยะหนึ่งแล้ว เพราะ “วิทัย” บอกกับใครๆ หรือกับคนของออมสินเองว่า “อยู่ออมสินไปยาวๆ ครับ”

ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท

ในแง่ความรู้ ความสามารถ ปฏิเสธไม่ได้ว่า “ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส” มีคุณสมบัติครบถ้วน  จบการศึกษาระดับปริญญาเอก ด้านเศรษฐศาสตร์ จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT)

ดร.รุ่ง นับเป็นลูกหม้อของแบงก์ชาติอย่างแท้จริง แต่ก็มีช่วงสั้นๆ 2 ปีไปเรียนรู้งานเอกชนที่ธนาคาร กรุงไทย ในตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Global Business and Strategy

ที่สำคัญจะมีความเป็นอิสระทางการเมือง โดยไม่แยกขาดชัดเจนเหมือนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ด้วยความเป็นผู้หญิงและเข้าใจความเป็นจริงของเศรษฐกิจและสังคม และระบบการเงิน จึงเชื่อว่า จะสามารถประสานนโยบายการเงินและนโยบายการคลังได้ โดยจะไม่ถูกครอบงำจากคนในแบงก์ชาติเองด้วย เพราะเข้าในวัฒนธรรมของแบงก์ชาติเป็นอย่างดี

ดร.รุ่ง จึงจะขึ้นเป็นผู้ว่าธปท. คนที่ 22 ลำดับที่ 25 ที่มาจากคนในธปท.อีกครั้งในรอบ  15 ปี หลังจาก ดร.ธาริษา วัฒนเกส เป็นผู้ว่าธปท. ในช่วง 8 พ.ย. 2549 – 30 ก.ย. 2553 และยังจะเป็นผู้ว่าธปท.หญิงคนที่ 2 ต่อจากดร.ธาริษาอีกด้วย

ดร.รุ่ง ถือว่า มีบทบาทหลักในการขับเคลื่อน “ภูมิทัศน์ภาคการเงินไทย” ซึ่งมุ่งสร้างภูมิทัศน์ทางการเงินใหม่สำหรับเศรษฐกิจดิจิทัลและการเติบโตอย่างยั่งยืนของไทย

และนำไปสู่การพัฒนาโครงการ Your Data การจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) รวมถึงการยกระดับกลไกการค้ำประกันเครดิต (NaCGA) ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานของไทย

ดร.รุ่ง มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการผลักดัน “แนวทางการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน” และขับเคลื่อนมาตรการแก้หนี้ต่าง ๆ เช่น โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” และยังผลักดันการยกระดับมาตรฐานในการดูแลภัยทุจริตทางการเงินและกวาดล้างบัญชีม้า

ดร.รุ่ง โปษยานนท์ มัลลิกะมาส  อายุ 57 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกรรมการในคณะกรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (กกธ.) คณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) และคณะกรรมการระบบการชำระเงิน (กรช.)

ดร.รุ่ง ทำงานที่ ธปท. มานานกว่า 20 ปี มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่ครอบคลุมทั้งด้านนโยบายการเงิน การกำกับดูแลสถาบันการเงิน และการบริหารองค์กร

ดร.รุ่งเคยเป็นกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รองผู้ว่าการ ด้านบริหาร ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน และผู้ช่วยผู้ว่าการ สายเสถียรภาพการเงินและยุทธศาสตร์องค์กร