“วิทัย รัตนากร” เต็งหนึ่งผู้ว่า ธปท.คนที่ 25 ต่อจาก ”เศรษฐพุฒิ“

24 มิ.ย. 2568 | 23:20 น.
อัปเดตล่าสุด :25 มิ.ย. 2568 | 09:38 น.

“วิทัย รัตนากร” เต็งหนึ่งนั่งผู้ว่า ธปท.คนที่ 25 ต่อจาก ”เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ“ ผลงานเข้าตาฝ่ายนโยบาย หวังเข้าไปแก้หนี้ครัวเรือน ลดความเหลื่อมล้ำ

ผู้ว่าแบงก์ชาติ” ลำดับที่ 25 เริ่มมีความชัดเจนว่า ใครจะได้รับไม้ต่อจากนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งในสิ้นเดือนก.ย.68 นี้ โดยขณะนี้คณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่า ธปท. ได้เสนอ 2 รายชื่อบุคคลที่สมควรได้รับตำแหน่งต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว

สำหรับ 2 รายชื่อ ได้แก่

  • ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท.
  • นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน

ส่วนเต็งหนึ่งนั่งเก้าอี้ ผู้ว่า ธปท. คนที่ 25 นี้ “วิทัย รัตนากร” มาวิน เนื่องจากผลงานเข้าตาฝ่ายนโยบาย จากการดูแลแก้ไขปัญหาหนี้สินประชาชน รวมทั้งยังจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุน และยังช่วยให้ฐานรากเข้าถึงสินเชื่อในระบบ ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน

หากเข้าไปกุมบังเหียนขับเคลื่อนนโยบายการเงินของประเทศ ก็จะได้แก้ไขปัญหา โดยเฉพาะเรื่องหนี้ประชาชน และการเข้าถึงสินเชื่อได้อย่างตรงจุด 

ส่องวิสัยทัศน์ 3 แนวทางแก้หนี้

โดยก่อนหน้านี้ “วิทัย” ได้ฉายภาพวิสัยทิศน์ถึงการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ทั้งนโยบายการเงิน และนโยบายการคลัง ต้องเดินไปพร้อมกัน แม้มีบทบาทต่างกัน  คือ นโยบายการคลังจะออกได้เร็ว ยิงตรงเป้า และเห็นผลในระยะเวลาอันสั้น ส่วนนโยบายการเงินเป็นภาพใหญ่ เช่น การลดดอกเบี้ย ซึ่งกว่าจะเกิดผลต้องใช้ระยะเวลา 6-12 เดือน

“การลดดอกเบี้ย อัดฉีดเงินหรือลดภาษีอย่างเดียวแก้ไม่ได้ทั้งหมด ต้องประสาน (policy coordination) ระหว่างนโยบายการเงิน การคลัง และมาตรการจากหน่วยงานกำกับอื่นไปทิศทางเดียวกันและต่อเนื่อง ด้านนโยบายการเงินควรชัดเจน และส่งสัญญาณเชิงรุกขึ้น”

ทั้งนี้ ยังมองว่าในการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนในทางปฏิบัติมองว่ามี 3 แนวทาง ได้แก่ 

  1. เศรษฐกิจต้องเติบโต: หาก Nominal GDP โตเฉลี่ย 4% ต่อเนื่อง 2-3 ปี จะช่วยลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ได้
  2. ลดดอกเบี้ยเงินกู้: ช่วยให้ลูกหนี้จ่ายเงินต้นได้มากขึ้นในยอดชำระเท่าเดิม
  3. มาตรการเสริม: เช่น โอนหนี้ไม่มีหลักประกันออกจากระบบธนาคาร เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ในระยะยาว

เปิดประวัติการศึกษา-ทำงาน

“วิทัย” นั้น ปัจจุบันรับตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สมัยที่ 2 โดยได้พลิกบทบาทเป็น “ธนาคารเพื่อสังคม” ช่วยเหลือประชาชน ฐานรากให้เข้าถึงสินเชื่อในระบบ

ปัจจุบันอายุ 54 ปี เป็นบุตรของ “ศิริลักษณ์ รัตนากร” ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กับ “โสภณ รัตนากร” อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม

“วิทัย” จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโทถึง 3 ใบ คือ 

  • ปริญญาโทเศรษฐศาสตร์การเมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • ปริญญาโทกฎหมายธุรกิจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
  • ปริญญาโทการเงิน Drexel University, สหรัฐอเมริกา

โดยเริ่มต้นทำงานที่บริษัทหลักทรัพย์ภัทร, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.), ต่อมาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน (CFO) บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ระหว่างปี 2554-2557, ย้ายมารับตำแหน่งรองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และดูแลกลุ่มลูกค้าธุรกิจและภาครัฐ ช่วงปี 2558-2559 ต่อมาปี 2559-2561 ดูแลกลุ่มลงทุนและบริหารการเงิน (CFO)

ทั้งนี้ ในช่วงปี 2560-2561 ถูกส่งไปเป็นรักษาการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เพื่อเข้าไปบริหารปัญหาฐานะการเงินของแบงก์ จากนั้นก็ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ระหว่างปี 2561-2563 ก่อนจะมาเป็นผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ตั้งแต่ปี 2563-ปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจขั้นสุดท้าย ขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะเสนอชื่อบุคคลใดต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งต้องรอติดตามอย่างใกล้ชิดว่า ใครจะคว้าตำแหน่ง “ผู้ว่าแบงก์ชาติ” คนที่ 22 โดยจะมีผลส่งผ่านไปถึงการกำหนดทิศทางนโยบายการเงินของประเทศด้วย