เปิดวิสัยทัศน์ “วิทัย รัตนากร” ผู้สมัครชิงเก้าอี้ ผู้ว่า ธปท.

23 มิ.ย. 2568 | 23:30 น.
อัปเดตล่าสุด :24 มิ.ย. 2568 | 04:36 น.

เปิดวิสัยทัศน์ “วิทัย รัตนากร”​ หนึ่งในผู้สมัครชิงเก้าอี้ “ผู้ว่าแบงก์ชาติ” คนที่ 22 มอง 3 แนวทางแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน นโยบายการคลัง การเงิน ต้องสอดประสานกัน

การสรรหาผู้ที่จะเข้ามานั่งเก้าอี้ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนที่ 22 (ลำดับที่ 25) เริ่มมีความชัดเจนยิ่งขึ้น โดยในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ คณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการ ธปท. ได้เชิญ 6 ผู้สมัครที่ผ่านคุณสมบัติเข้ารับการสัมภาษณ์แสดงวิสัยทัศน์ โดยหนึ่งในผู้สมัครที่น่าจับตา คือ “วิทัย รัตนากร” ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคาออมสิน 

โดย “วิทัย” ได้ฉายภาพวิสัยทิศน์ถึงการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งถือเป็นบทบาทและภารกิจสำคัญของระบบการเงิน ว่า การเดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนผ่านนโยบายการคลัง และนโยบายการเงินนั้น มีบทบาทต่างกัน แต่ทั้ง 2 ส่วนต้องทำงานพร้อมกัน คือ นโยบายการคลังจะออกได้เร็ว ยิงตรงเป้า และเห็นผลในระยะเวลาอันสั้น ส่วนนโยบายการเงินเป็นภาพใหญ่ เช่น การลดดอกเบี้ย ซึ่งกว่าจะเกิดผลต้องใช้ระยะเวลา 6-12 เดือน

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน

“การลดดอกเบี้ย อัดฉีดเงินหรือลดภาษีอย่างเดียวแก้ไม่ได้ทั้งหมด ต้องประสาน (policy coordination) ระหว่างนโยบายการเงิน การคลัง และมาตรการจากหน่วยงานกำกับอื่นไปทิศทางเดียวกันและต่อเนื่อง ด้านนโยบายการเงินควรชัดเจน และส่งสัญญาณเชิงรุกขึ้น”

ทั้งนี้ ยังมองว่าในการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนในทางปฏิบัติมองว่ามี 3 แนวทาง ได้แก่ 

  1. เศรษฐกิจต้องเติบโต: หาก Nominal GDP โตเฉลี่ย 4% ต่อเนื่อง 2-3 ปี จะช่วยลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ได้
  2. ลดดอกเบี้ยเงินกู้: ช่วยให้ลูกหนี้จ่ายเงินต้นได้มากขึ้นในยอดชำระเท่าเดิม
  3. มาตรการเสริม: เช่น โอนหนี้ไม่มีหลักประกันออกจากระบบธนาคาร เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ในระยะยาว

“การประสานกับมาตรการอื่นต่อเนื่อง และเป็นรูปธรรมทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ impact และประชาชนหลุดพ้นยั่งยืน เพราะท้ายสุดการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเชิงโครงสร้างไม่มี single solution หรือ มาตรการเดียวที่กดปุ่มแล้วแก้ทุกอย่างแต่ต้องเป็นจิ๊กซอว์นำมารวมกัน”

นอกจากนี้ ยังมองว่าการลดดอกเบี้ยเป็นเครื่องมือสำคัญ และจำเป็นในการบรรเทาปัญหาหนี้ครัวเรือน และกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนสูง แต่ความสำเร็จที่แท้จริงจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อส่งผ่านไปถึงดอกเบี้ยเงินกู้

เปิดประวัติ “วิทัย รัตนากร”

สำหรับ “วิทัย” นั้น ปัจจุบันรับตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สมัยที่ 2 โดยได้พลิกบทบาทเป็น “ธนาคารเพื่อสังคม” ช่วยเหลือประชาชน ฐานรากให้เข้าถึงสินเชื่อในระบบ

ปัจจุบันอายุ 54 ปี เป็นบุตรของ “ศิริลักษณ์ รัตนากร” ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กับ “โสภณ รัตนากร” อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม

“วิทัย” จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโทถึง 3 ใบ คือ 

  • ปริญญาโทเศรษฐศาสตร์การเมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • ปริญญาโทกฎหมายธุรกิจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
  • ปริญญาโทการเงิน Drexel University, สหรัฐอเมริกา

โดยเริ่มต้นทำงานที่บริษัทหลักทรัพย์ภัทร, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.), ต่อมาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน (CFO) บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ระหว่างปี 2554-2557, ย้ายมารับตำแหน่งรองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และดูแลกลุ่มลูกค้าธุรกิจและภาครัฐ ช่วงปี 2558-2559 ต่อมาปี 2559-2561 ดูแลกลุ่มลงทุนและบริหารการเงิน (CFO)

ทั้งนี้ ในช่วงปี 2560-2561 ถูกส่งไปเป็นรักษาการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เพื่อเข้าไปบริหารปัญหาฐานะการเงินของแบงก์ จากนั้นก็ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ระหว่างปี 2561-2563 ก่อนจะมาเป็นผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ตั้งแต่ปี 2563-ปัจจุบัน

สำหรับผลการคัดเลือกผู้ว่า ธปท. คนที่ 22 จะประกาศภายหลังจากวันที่ 24 มิ.ย.68 เป็นที่น่าจับตาว่าใครจะสามารถเข้าวินมากุมบังเหียนแบงก์ชาติ ซึ่งจะสะท้อนทิศทางนโยบายการเงินของประเทศในระยะต่อไป