คลังเกาะติด “ไทย-กัมพูชา” พร้อมออกมาตรการดูแลจังหวัดติดชายแดน

23 มิ.ย. 2568 | 05:54 น.
อัปเดตล่าสุด :23 มิ.ย. 2568 | 05:59 น.

คลังเกาะติดปัญหาความขัดแย้ง “ไทย-กัมพูชา” พร้อมออกมาตรการภาษี-ซอฟต์โลน ดูแลจังหวัดติดชายแดน ยันยึดมั่นหลักสันติวิธี

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมการเตรียมตัวของภาคเอกชนและผลกระทบหากมีการยกระดับความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยระบุว่าท่ามกลางสถานการณ์ที่ต้องยอมรับว่า กำลังเปราะบางและต้องใช้ความระมัดระวังสูงสุด ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชา ได้เริ่มส่งสัญญาณที่ควรติดตามอย่างใกล้ชิด 

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

แม้ฝ่ายไทยยังคงมีท่าทีที่สุขุม รอบคอบ และให้ความสำคัญกับการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน แต่ในฐานะผู้กำกับดูแลเศรษฐกิจในภาพรวม รัฐบาลไทยจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับความเป็นไปได้ต่าง ๆ โดยเฉพาะผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นได้หากสถานการณ์ยืดเยื้อ

ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลัก 2 ประการ ได้แก่ 

ประการแรก คือ การประเมินผลกระทบเชิงเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน ทั้งจากการค้าชายแดน ภาคการผลิตที่พึ่งพาวัตถุดิบจากกัมพูชา ภาคการเงินที่มีธุรกิจและสาขาในกัมพูชา รวมถึงภาคบริการ ไม่ว่าจะเป็นสายการบิน โทรคมนาคม หรือพลังงาน

ประการที่สอง คือ การเตรียมมาตรการรองรับ โดยรัฐบาลพร้อมพิจารณาทั้งมาตรการด้านการเงิน เช่น soft loan การผ่อนปรนทางภาษี มาตรการโลจิสติกส์ เช่น การเปลี่ยนเส้นทางการขนส่งจากทางบกเป็นทางเรือ ตลอดจนการกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดชายแดน ทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง ซึ่งวันนี้จะเปิดรับฟังข้อเสนอจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการและภาคเอกชน

“การประชุมดังกล่าวในวันนี้เป็นเพียง การเตรียมการในเชิงเทคนิค เพื่อความพร้อมในการรับมือเท่านั้น ไม่มีเจตนาใด ๆ ที่จะทำให้สถานการณ์บานปลาย ประเทศไทยยังคงยึดมั่นในหลักสันติวิธี และให้ความสำคัญกับความมั่นคงร่วมกันในภูมิภาคอาเซียน”

ส่วนในประเด็นแรงงานกัมพูชาที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย รัฐบาลไทยมีท่าทีที่ชัดเจนว่า ไม่ประสงค์จะผลักดันให้แรงงานต้องเดินทางกลับประเทศโดยไม่จำเป็น เพราะเราตระหนักดีถึงความสำคัญของแรงงานกลุ่มนี้ต่อระบบเศรษฐกิจไทย