จับตาธปท. เปิดแนวคิดนโยบายแบงก์ชาติ 15 ม.ค.นี้

14 ม.ค. 2567 | 12:03 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ม.ค. 2567 | 12:37 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุ จับตาสัญญาณเงินทุนต่างชาติ - ธปท. เปิดแนวคิดนโยบายแบงก์ชาติ 15 ม.ค.นี้ หลังบาทหลังอ่อนค่าทำสถิติรอบ 1 เดือน แตะระดับ 35.23 บาทต่อดอลลาร์

ท่ามกลางข้อกังขาเรื่องนโยบายดอกเบี้ย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะแถลงเปิดแนวคิดนโยบายแบงก์ชาติ ที่ธปท. เวลา 10.00 น.วันที่ 15 ม.ค.นี้ที่ สำนักงานใหญ่ โดย คุณปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงินและเลขาคณะกรรมการนโยบายการเงิน คุณสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน และคุณสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน ธปท.

ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท ในสัปดาห์ถัดไป (15-19 ม.ค.67 ) ที่ระดับ 34.70-35.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณเงินทุนต่างชาติ และงาน BOT Policy Briefing เปิดแนวคิดนโยบายแบงก์ชาติ

หลังจากวันศุกร์ที่ 12 ม.ค. 2567 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 35.06 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 34.72 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (5 ม.ค. 2567) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 8-12 ม.ค. 2567 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 4,238 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 4,380 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 3,460 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 920 ล้านบาท)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 1 เดือนที่ 35.23 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในระหว่างสัปดาห์ โดยเงินบาทยังคงอ่อนค่าสอดคล้องกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย เงินบาทเผชิญแรงขายในช่วงต้นสัปดาห์ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่มีแรงหนุนบางส่วนต่อเนื่องจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ ซึ่งออกมาดีกว่าที่คาด

อย่างไรก็ดี เงินบาทดีดตัวกลับมาช่วงสั้นๆ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ขาดแรงหนุน หลังบอนด์ยีลด์สหรัฐ ย่อตัวลงในช่วงก่อนการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ

“เงินบาทกลับไปอ่อนค่าลงอีกครั้งในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ สอดคล้องกับสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของต่างชาติ ประกอบกับตลาดยังคงรอติดตามสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศ”

ขณะที่แรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์ฯ ชะลอลงบางส่วน หลังข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งออกมาดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด สะท้อนว่า โอกาสการลดดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนมี.ค. ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง

ตลาดยังติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนม.ค. 2567 ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค. 2566 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค. 2566 ของยูโรโซนและอังกฤษ รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจจีน อาทิ จีดีพีไตรมาส 4/66 และเครื่องชี้เศรษฐกิจอื่นๆ ในเดือนธ.ค. 2566 ด้วยเช่นกัน