บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ลืมรหัส PIN "คลัง" เปิดให้แก้ไขได้

05 เม.ย. 2566 | 11:38 น.

คลังเผย "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ใช้สิทธิผ่านบัตรประชาชน ใครลืมรหัส PIN สามารถแก้ไขได้ ชี้เปลี่ยนรหัสใหม่ได้ผ่านกรุงไทย-ออมสิน-ธ.ก.ส. อัพเดท มีผู้ใช้สิทธิแล้ว 2,644 ล้านบาท

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้เปิดให้ใช้สิทธิครั้งแรกได้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.66 สำหรับผู้ที่ยืนยันตัวตนแล้วเสร็จภายในวันที่26 มี.ค.66 อย่างไรก็ตาม ยังผู้มีสิทธิบางส่วนที่ยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว แต่เมื่อไปใช้สิทธิที่ร้านธงฟ้าฯ แล้วไม่สามารถจำรหัสส่วนบุคคล (Personal Identification Number: PIN) หรือต้องการเปลี่ยนแปลงรหัส PIN ที่เคยกำหนดไว้ในขั้นตอนการยืนยันตัวตน ซึ่งในกรณีดังกล่าว ผู้มีสิทธิฯ สามารถดำเนินการได้ ดังนี้

 

1. กรณีต้องการเปลี่ยนรหัส PIN ใหม่ สามารถดำเนินการได้ที่สาขาของธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธ.ก.ส. ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป โดยรหัส PIN ใหม่จะต้องไม่ซ้ำกับรหัส PIN เดิมที่เคยกำหนด 10 ครั้ง ย้อนหลัง และต้องทำการยืนยันตัวตนทุกครั้งที่เปลี่ยนรหัส PIN ซึ่งจะสามารถใช้สิทธิได้หลังจากกำหนดรหัส PIN ใหม่ประมาณ 2 ชั่วโมง

 

2. กรณีกดรหัส PIN ตามที่เคยกำหนดไว้ในขั้นตอนการยืนยันตัวตนไม่ถูกต้อง จำนวน 3 ครั้ง จะถูกระงับการใช้งาน (สำหรับสิทธิสวัสดิการที่ต้องใส่รหัส PIN) ซึ่งผู้มีสิทธิฯ สามารถติดต่อขอทำการยืนยันตัวตนกำหนดรหัส PIN ใหม่โดยต้องดำเนินการตามข้อ 1

3. กรณีที่ดำเนินการยืนยันตัวตนแล้ว แต่มีการเปลี่ยนบัตรประจำตัวประชาชน เนื่องจากบัตรประจำตัวประชาชนหมดอายุ หรือสูญหาย จะต้องอายัดสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐด้วยตนเองผ่านระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ กับศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (Call Center) หมายเลขโทรศัพท์ 02 109 2345 ซึ่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 

หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทยฯ ตามวันและเวลาทำการของสาขาของธนาคารกรุงไทยฯ ในวันจันทร์ - วันศุกร์ระหว่างเวลา 08.30 - 17.30 น. โดยผู้มีสิทธิฯ ต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนใบใหม่ไปติดต่อขอทำการยืนยันตัวตนเพื่อกำหนดรหัส PIN ใหม่ โดยต้องดำเนินการตามข้อ 1

สำหรับความคืบหน้าการใช้สิทธิภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2566 ผ่านบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จภายในวันที่ 26 มีนาคม 2566 ณ วันที่ 5 เมษายน 2566 เวลา 13.00 น. มีมูลค่าการใช้สิทธิสะสมจำนวนกว่า 2,644.60 ล้านบาท จากผู้มีสิทธิฯ จำนวนกว่า 8.67 ล้านราย 

โดยส่วนใหญ่จะเป็นการใช้สิทธิในวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด และวงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะตามลำดับ

ขณะที่ผู้ที่ผ่านเกณฑ์ตามโครงการฯ ที่ดำเนินการยืนยันตัวตนแล้ว โดยข้อมูล ณ วันที่ 5 เมษายน 2566 เวลา 13.00 น. พบว่า มีผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จจำนวนทั้งสิ้น 12,978,844 ราย (ร้อยละ 88.91 ของจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ทั้งหมดจำนวน 14,596,820 ราย) และจำนวนผู้ยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ณ วันที่ 5 เมษายน 2566 เวลา 13.00 น. มีจำนวนทั้งสิ้น 1,228,976 ราย 

ทั้งนี้ ผู้ผ่านเกณฑ์ที่ไม่ได้ดำเนินการยืนยันตัวตนภายในวันที่ 26 มีนาคม 2566 ยังคงสามารถยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารออมสิน และธ.ก.ส. ได้ตามวันเวลาที่ธนาคารกำหนด และสามารถเริ่มใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้ตามวันที่กระทรวงการคลังกำหนด