นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้
โดยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในอัตราสูงสุด 0.30% ต่อปี เพื่อช่วยส่งเสริมการออมเงินในระยะยาวและช่วยให้ผู้ฝากเงินมีรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น พร้อมกับปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MRR MLR และ MOR 0.25% ต่อปี เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งผ่านการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย
รวมถึงเป็นการปรับให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารกลับมาอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับทิศทางดอกเบี้ยของระบบธนาคารพาณิชย์โดยรวม มีผลตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2566 เป็นต้นไป
นายกฤษณ์ กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจไทยได้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะความไม่แน่นอนจากต่างประเทศ ได้แก่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก เสถียรภาพของระบบธนาคารในสหรัฐฯและยุโรป อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯและยุโรปที่ยังคงอยู่ในระดับสูงท่ามกลางแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นที่มีความไม่แน่นอนสูงขึ้น
ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. ธนาคารจึงได้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 0.30% ต่อปี และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อสะท้อนต้นทุนทางการเงินในระบบที่สูงขึ้น โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2566 เป็นต้นไป ดังนี้
อย่างไรก็ตาม ธนาคารไทยพาณิชย์ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับลูกค้าของธนาคารจากการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในครั้งนี้ ดังนั้น ธนาคารจึงยังคงมาตรการพิเศษในการช่วยเหลือลูกค้าในด้านต่างๆ ต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ยังเปราะบาง โดยคำนึงถึงศักยภาพและโอกาสในการปรับตัวของลูกค้าในอนาคต