กองทุนบัวหลวงชวนนักลงทุนปรับพอร์ต หั่นค่าธรรมเนียมขาย50%

05 ก.ย. 2565 | 11:43 น.

กองทุนบัวหลวง หรือ BBLAM หั่นค่าธรรมเนียมการขาย 5 กองทุนต่างประเทศลงเหลือ 50% ชวนนักลงทุนปรับพอร์ต หาประโยชน์จากเงินเฟ้อสูง และเริ่มสะสมโอกาสจาก Growth Stock

รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด(BBLAM) หรือ กองทุนบัวหลวงเปิดเผยว่า ในช่วงปลายไตรมาส 3 และต้นไตรมาส 4 ปีนี้ สถานการณ์ลงทุนกำลังปรับเปลี่ยนทิศทางไปจากต้นปีที่ผ่านมา โดยนักลงทุนเริ่มมองว่า เงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ขณะที่ก็มองว่าเฟดจะยังคงปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อดึงเงินเฟ้อให้มาอยู่ระดับที่เหมาะสม แต่การปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจไม่ได้พุ่งแรงเหมือนในช่วงครึ่งปีแรก

 

ดังนั้น BBLAM จึงมองว่า การปรับพอร์ตช่วงนี้ยังให้ความสำคัญกับเงินเฟ้อควบคู่กับเริ่มสะสมโอกาสจาก Growth Stock จะเป็นสิ่งที่เหมาะสมและเป็นไปตามสถานการณ์กับโอกาสที่จะมาในอนาคต และเพื่อเป็นการสนับสนุนการปรับพอร์ตครั้งนี้ ในระหว่างวันที่ 1 กันยายน – 31 ตุลาคม 2565 BBLAM ทำการปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee) กองทุนต่างประเทศ 5 กองทุน ลงเหลือ 50% จากอัตราที่เก็บจริง

สำหรับกองทุนต่างประเทศ 5 กองทุนที่ปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมการขาย ประกอบด้วย

  • กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ (B-GLOB-INFRA)
  • กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH) 
  • กองทุนเปิดบัวหลวงยั่งยืน (B-SIP) 
  • กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ)
  • กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเวียดนาม (B-VIETNAM)

 

5 กองทุนข้างต้นเป็นกองทุนที่ BBLAM เล็งเห็นแล้วว่า มีความเหมาะสมในการปรับพอร์ตในครั้งนี้  โดยเริ่มจาก B-GLOB-INFRA เป็นกองทุนที่เหมาะกับการหาโอกาสจากเงินเฟ้อ เพราะลงทุนในหุ้นโครงสร้างพื้นฐานที่ส่วนใหญ่โครงสร้างราคาปรับตามเงินเฟ้อ และที่สำคัญ กองทุนยังตั้งเป้าหมายลงทุนเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อเฉลี่ยของประเทศในกลุ่ม G7 และยังบวกเพิ่มอีก 5.5% ดังนั้น (Benchmark ของกองทุน ได้แก่ ดัชนี OECD Major 7 CPI + 5.5%)  กองนี้ จึงถือว่าเป็น inflationary hedge

ส่วนอีก 4 กองทุนถือเป็น Growth Stock ที่นักลงทุนสามารถเลือกทยอยสะสมได้ โดยแบ่งเป็น 2 ประเทศ    และ 2 ธีมลงทุนในกลุ่มรายประเทศ  BBLAM   เลือกกองทุน B-CHINE-EQ และ B-VIETNAM  เป็นกองทุนที่น่าสะสมเพื่อรอโอกาส โดยจีนเองกำลังได้ประโยชน์จากนโยบายภาครัฐที่หันกลับมาสนับสนุน โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจและเวียดนาม ซึ่งปีนี้ได้ประโยชน์จากพลังการบริโภคในประเทศในการผลักดัน GDP จึงทำให้ได้รับผลกระทบจากภายนอกลดลง นอกจากนี้ยังได้เปรียบที่มูลค่าหุ้นยังมีราคาถูกเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน   

 

นอกจากนั้น 2 ธีมลงทุนที่ BBLAM แนะนำ ได้แก่ B-INNOTECH ซึ่งมากับธีมเทคโนโลยี ซึ่งธีมเองก็ถือเป็นพื้นฐานของการพัฒนาในด้านต่างๆ จากวันนี้สู่อนาคตอยู่แล้ว แต่จังหวะลงทุนตอนนี้ยิ่งน่าสนใจ เพราะราคาหุ้นปรับตัวลงมามาก อีกทั้งจุดเด่นของกองทุน คือ ผู้จัดการกองทุนหลัก Fidelity Funds – Global Technology Fund เน้นลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี มีโอกาสเติบโต ที่สำคัญราคาหุ้นต้องไม่สูงกว่าปัจจัยพื้นฐานมากเกินไป

 

อีกธีมลงทุน ได้แก่ ธีมดูแลโลก โดยเฉพาะการเติบโตของธุรกิจผลิตพลังงานทดแทน   ซึ่ง BBLAM แนะนำกองทุน B-SIP ที่ผ่านมา ก็จะเห็นว่า การเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานไม่ได้เพียงสร้างผลกำไรอย่างงามให้กับบริษัทผู้ผลิตพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเท่านั้น แต่บริษัทผู้ผลิตพลังงานทดแทนก็ได้ประโยชน์ตามมาด้วย