ดั๊บเบิ้ลเอ ชี้ธุรกิจกระดาษยังสดใส แม้สื่อออนไลน์มีบทบาท ย้ำปรับตัวทัน เน้นผลิตกระดาษสำนักงานมากขึ้นหวังตีตลาด 138 ประเทศ ปีหน้าเตรียมเพิ่มกำลังผลิตเต็มสูบที่ 1 ล้านตันต่อปี รับภาวะเศรษฐกิจโลกขยายตัว ได้งานรับจ้างผลิตกระดาษเข้ามาเสริม ยันภายใน 3 ปียังไม่ลงทุนใหม่ แต่พร้อมลงทุนหากมีตลาดรองรับ
[caption id="attachment_98227" align="aligncenter" width="335"]
ชาญวิทย์ จารุสมบัติ
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ลเอ (1991) จำกัด (มหาชน)[/caption]
นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ลเอ (1991) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเยื่อและกระดาษพิมพ์เขียนรายใหญ่ เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า จากสถานการณ์ของสื่อออนไลน์เข้ามามีบทบาทในสังคมมากขึ้น ส่งผลให้กระดาษพิมพ์เขียน เช่น กระดาษอาร์ต กระดาษปอนด์ และกระดาษหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ได้รับผลกระทบ เห็นได้จากช่วงที่ผ่านมาบริษัทเคยมียอดการเติบโตในระดับ 7-10 % แต่ปัจจุบันขยายตัวอยู่ในระดับต่ำ 4-5 % จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวที่ลดลง
ทั้งนี้ ด้วยการปรับตัวที่ทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น บริษัท จึงหันมาเน้นการผลิตกระดาษพิมพ์เขียนที่ใช้ในงานพิมพ์และกระดาษสำนักงานมากขึ้น หรือเป็นกระดาษถ่ายเอกสารคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 85 % ส่วนที่เหลือเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ด้วยการผลิตของ 3 โรงงานที่มีกำลังการผลิตอยู่ 7 แสนตันต่อปี และโรงงานที่ประเทศฝรั่งเศสอีก 3 แสนตันต่อปี ซึ่งปัจจุบันผลิตอยู่ที่ราว 80 %
โดยในปีหน้าบริษัท จะเพิ่มกำลังการผลิตของทุกโรงงานเต็มที่ 100 % เพื่อรองรับงานรับจ้างผลิตกระดาษตามความต้องการของลูกค้าต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะโรงงานกระดาษที่ฝรั่งเศสที่มีกำลังผลิตเหลืออยู่อีก 2 แสนตัน จะรับงานจากประเทศในแถบสหภาพยุโรปและตะวันออกกลาง ที่มีความไว้วางใจและเชื่อมั่นในคุณภาพการผลิตป้อนงานให้ ประกอบกับบริษัทมีฐานลูกค้าในต่างประเทศกว่า 138 ประเทศ ที่คาดว่าจะมีความต้องการใช้กระดาษเพิ่มมากขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวที่ดีกว่าปีนี้ ซึ่งจะทำให้ภาพรวมของบริษัทมีการเติบโตในระดับ 2-3 % จากปีนี้ได้ แบ่งเป็นรายได้ที่มาจากต่างประเทศถึง 80 % และตลาดในประเทศ 20%
นายชาญวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนจะขยายการลงทุนในระยะสั้นนั้นในช่วง 3 ปีนี้ คงจะไม่เกิดขึ้น เนื่องจากกำลังการผลิตที่มีอยู่ยังสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างเพียงพอ แต่มองในระยะยาว และเริ่มศึกษาดูลู่ทางการลงทุนในประเทศต่างๆ ที่บริษัทได้ส่งออกกระดาษออกไป เพื่อดูสภาพตลาดย้อนหลัง 10 ปี มีความต้องการกระดาษก้าวกระโดดเป็นอย่างไร เป็นการเตรียมการณ์ไว้สำหรับในอนาคต ซึ่งหากเห็นว่าประเทศนั้นๆ มีความต้องการใช้กระดาษมากและคุ้มที่จะลงทุนบริษัทก็พร้อมที่จะเข้าไปลงทุน แต่ขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นประเทศไหน
ส่วนความต้องการใช้กระดาษพิมพ์เขียนในประเทศ มองว่าหากมีการเลือกตั้งรัฐบาล ก็จะส่งผลให้ความต้องการมีมากขึ้น เพราะต้องใช้ในการหาเสียง และหากเศรษฐกิจในประเทศขยายตัวดีขึ้นก็จะได้อานิสงส์อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งสำหรับสำนักงาน 80 แกรม คุณภาพดีอยู่ที่กว่า 65 % ของตลาด ในขณะที่กระดาษที่คุณภาพต่ำลงมา 70 % ถือว่ามีคู่แข่งค่อนข้างสูง เนื่องจากมีการขายตัดราคากันค่อนข้างมาก ส่วนผลประกอบการในช่วงครึ่งปีนี้บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 1.105 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1.074 หมื่นล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,192 วันที่ 15 - 17 กันยายน พ.ศ. 2559