จากกรณีตัวแทนประกันชีวิต บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) รายนางสาวจันเกตุ ทับบุญ กระทำการฉ้อฉลเบี้ยประกันภัย ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นเงินจำนวนมาก
ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้เรียกผู้บริหารระดับสูงของ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เข้าพบด่วน เพื่อติดตามความคืบหน้าและสั่งการให้แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการด้านกฎหมายและตรวจสอบ คปภ.เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 ได้มอบหมายให้นายโสรัจจ์ แรกสกุลชัย ผู้ช่วยเลขาธิการ สายตรวจสอบ และนายจอม จีระแพทย์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกฎหมายและคดี พร้อมสายงานที่เกี่ยวข้อง เรียกบริษัทเข้าชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินการกรณีดังกล่าว
พร้อมสั่งการให้บริษัทเยียวยาผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน โดยต้องรับผิดชอบตามข้อเท็จจริงและหลักฐานที่ตรวจสอบได้ รวมทั้งสั่งให้เร่งปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการควบคุมภายใน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันอีกในอนาคต
หากไม่ดำเนินการตามที่กำหนด พร้อมยกระดับการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ การฉ้อฉลที่เกิดขึ้นนั้น สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรมประกันภัย ดังนั้น เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยได้รับการเยียวยาโดยเร็ว และเรียกคืนความเชื่อมั่นกลับคืนมา
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสำนักงาน คปภ. ได้เพิกถอนใบอนุญาตตัวแทนรายดังกล่าวแล้ว การกระทำของตัวแทนดังกล่าวเป็นความผิดอาญา ฐานฉ้อฉลประกันภัยด้วย ซึ่งจะได้มีการประสานพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีอาญาต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้นสำนักงาน คปภ. จะยังคงต้องตรวจสอบและติดตามบริษัทอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อทราบและประเมินถึงสาเหตุ รวมถึงประสิทธิภาพของระบบการควบคุมภายในในทุกมิติ ตลอดจนการติดตามการเยียวยาผู้เสียหายอย่างใกล้ชิด
สำนักงานคปภ.จึงได้สั่งการให้บริษัทเร่งดำเนินการ โดยกำหนดระยะเวลาในการเยียวยา พร้อมทั้งสั่งให้บริษัทปรับปรุงแก้ไขกระบวนการบริหารความเสี่ยง ระบบการควบคุมภายใน และการปฏิบัติตามกฎหมายของระบบงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกำหนดมาตรการ เชิงป้องกันที่มีประสิทธิภาพเพิ่มเติม เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันในอนาคต ดังนี้
โดยต้องดำเนินการให้ครบถ้วน ถูกต้อง และไม่เลือกปฏิบัติ หากบริษัทปฏิเสธการดำเนินการดังกล่าว จะต้องแสดงเอกสารหลักฐานที่ชัดเจนและปราศจากข้อสงสัยว่า ผู้เอาประกันภัยรายใดเป็นการเฉพาะ ที่ร่วมกันดำเนินการโดยทุจริตกับตัวแทนรายดังกล่าว พร้อมทั้งต้องพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำผิด
ทั้งนี้ หากบริษัทเพิกเฉยหรือไม่ชดใช้เงิน ไม่คืนเบี้ยประกัน หรือไม่เสนอทางเลือกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้เอาประกันภัยรายใด สำนักงาน คปภ. จะยกระดับการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทต้องรายงานผลการดำเนินการดังกล่าวต่อสำนักงาน คปภ. อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะเยียวยาและแก้ไขปัญหาเสร็จสิ้น
ทั้งนี้ ได้รับคำยืนยันจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทว่าจะดำเนินการให้เป็นไปตามหลักการดังกล่าวข้างต้น
“สำนักงาน คปภ. จะกำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้บริษัทประกันภัยทุกแห่งควบคุมและกำกับพฤติกรรมของตัวแทนประกันชีวิตให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด"
นายอดิศรกล่าวว่า การสั่งการในครั้งนี้เป็นมาตรการเชิงกำกับที่มีนัยสำคัญ เพื่อประเมินประสิทธิภาพและความเพียงพอของระบบการควบคุมภายใน ระบบกำกับดูแล และกลไกการกำกับตัวแทนของบริษัทประกันภัย
สำนักงาน คปภ.จะไม่ยอมให้มีการเสนอขายที่ไม่เป็นธรรม ไม่โปร่งใส หรือฝ่าฝืนกฎหมาย และส่งผลกระทบต่อสิทธิของผู้เอาประกันภัยโดยเด็ดขาด ผู้เอาประกันภัยและประชาชนจะต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และได้รับการปฏิบัติอย่างถูกต้อง เป็นธรรม และเป็นไปตามกฎหมาย พร้อมทั้งยกระดับความเชื่อมั่นต่อระบบประกันภัยไทยว่ามีการกำกับดูแลที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ และสามารถป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. จะติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการปฏิบัติตามคำสั่งอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง หากพบการไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติไม่ครบถ้วน สำนักงาน คปภ. พร้อมดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อรักษาประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยและความมั่นคงของระบบประกันภัยไทยในระยะยาว