เคทีซีเปิดยุทธศาสตร์ปี 69 ชู“Cloud Native-AI เร่งสปีดบริการ
KTC ปฏิรูประบบไอทีสู่ Cloud Native เต็มรูปแบบ เร่งสปีดบริการ-ปั๊มประสิทธิภาพการตลาดแบบ Hyper-personalization มั่นใจปี 69 กำไรเติบโตต่อเนื่อง สวนกระแสหนี้ครัวเรือนพุ่ง คุม NPL ไม่เกิน 2%
เคทีซีประกาศทิศทางธุรกิจปี 2569 เน้นความยืดหยุ่นและการเติบโตบนพื้นฐานความเป็นจริง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เดินหน้าปฏิรูประบบไอทีสู่ Cloud Native เต็มรูปแบบเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมรุกตลาดประกันและผนึกกำลังกรุงไทยขยายฐานลูกค้าคุณภาพ มั่นใจคุม NPL ไม่เกิน 2% และดันกำไรเติบโตกว่าปี 2568
บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี นำโดยนางพิทยา วรปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยนางรจนา อุษยาพร ผู้บริหารสูงสุด สายงานการเงิน นางวิไลวรรณ นพรัตน์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ
นางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต และนางสาวพิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้บริหารสูงสุด สายงานสินเชื่อบุคคล ร่วมกันเปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานและทิศทางกลยุทธ์ขององค์กรในช่วงปี 2568-2569
นางพิทยาระบุว่า ปี 2568 ที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ยากลำบากและมีความท้าทายอย่างมากจากปัจจัยรอบด้าน ทั้งสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ สภาวะเศรษฐกิจโลกและปัญหาหนี้ครัวเรือนในประเทศที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจสินเชื่อรายย่อยในการพิจารณาอนุมัติลูกค้ารายใหม่
อย่างไรก็ตาม เคทีซีสามารถประคองผลการดำเนินงานให้ผ่านพ้นมาได้ด้วยดีตามแผนงาน Digital Transformation และการนำเทคโนโลยี AI มาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเป็นระบบ ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานที่สำคัญก่อนจะก้าวเข้าสู่ปี 2569
ปี 2569 บริษัทยังคงเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างผลกำไรให้เติบโตได้สูงกว่าปี 2568 แม้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมจะยังคงมีความไม่แน่นอนสูงก็ตาม
ทั้งนี้ เคทีซีได้กำหนดเป้าหมายการเติบโตปี 2569 ที่ “ใกล้เคียงกับความเป็นจริง” มากขึ้น โดยจะไม่เน้นการตั้งเป้าที่ดุดันเกินไปเหมือนปีก่อนๆ เนื่องจากคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตเพียง 1.6% ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปี 2568
นางวิไลวรรณกล่าวว่า กลยุทธ์หลักของ KTC จะมุ่งเน้นไปที่การเตรียมความพร้อมของระบบไอทีและบุคลากรเพื่อให้มีความคล่องตัวและยืดหยุ่น พร้อมที่จะเร่งการเติบโตได้ทันทีเมื่อจังหวะเศรษฐกิจเอื้ออำนวย, หัวใจสำคัญที่เป็นก้าวสำคัญทางเทคโนโลยีของปีหน้าคือ การเปลี่ยนระบบหลัก (Core System) จากระบบเดิม (Legacy) ที่ใช้งานมานานกว่า 10 ปี ไปสู่ระบบ Cloud Native อย่างเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้ระบบใหม่นี้จะช่วยเพิ่ม “ความเร็ว” (Speed) ในการให้บริการ ทั้งในแง่ของความสามารถในการขยายตัวเพื่อรองรับรายการธุรกรรมมหาศาลในช่วงที่มีการใช้งานหนาแน่นอย่างโปรโมชั่น Double Day ได้โดยอัตโนมัติ และจะลดขนาดการใช้งานลงเมื่อปริมาณรายการน้อยลง เพื่อช่วยในเรื่องการประหยัดทรัพยากรและลดต้นทุนในระยะยาว
นอกจากนี้ ระบบใหม่ยังถูกออกแบบมาเพื่อให้ง่ายต่อการเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีล้ำสมัยในอนาคต ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และเปิดโอกาสให้พนักงานได้พัฒนาทักษะใหม่ๆ แทนการทำงานที่ซ้ำซ้อน
นางประณยากล่าวว่า ในส่วนของกลยุทธ์การตลาดสำหรับธุรกิจบัตรเครดิต เคทีซียังคงรักษาความแข็งแกร่งของพอร์ตลูกหนี้ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม โดยมีอัตราลูกค้าที่ใช้งานสม่ำเสมอ (Active Rate) สูงถึง 95% ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่อยู่เพียง 65%
สำหรับปี 2569 เคทีซีตั้งเป้าปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรโตขึ้น 5% โดยจะมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าร่วมกับธนาคารกรุงไทยในกลุ่มลูกค้า Wealth, SME และกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Z), และการรุกเข้าสู่ธุรกิจนายหน้าประกัน (Insurance Broker) อย่างเต็มตัวหลังจากได้รับใบอนุญาต เนื่องจากข้อมูลระบุว่า หมวดประกันเป็นหมวดที่มียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของเคทีซี โดยมีสัดส่วนถึง 10% ของพอร์ตรวม
เคทีซีจะใช้ระบบ Customer Data Platform (CDP) และ AI เข้ามาวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าแบบรายบุคคลเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันและสิทธิประโยชน์ที่ถูกที่ถูกเวลาในรูปแบบ Hyper-personalization ผ่านแอปพลิเคชัน KTC Mobile ซึ่งมีผู้ใช้งานครอบคลุมกว่า 90% ของฐานลูกค้าทั้งหมด
นางสาวพิชามนกล่าวถึงธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลและ“เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน”ว่า ตั้งเป้าการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อรวมไว้ที่ 1-2% โดยเน้นความสำคัญที่คุณภาพของลูกหนี้เป็นอันดับแรก และปี 2569 จะมีการปรับโฉมการสมัครสินเชื่อผ่านระบบดิจิทัล (Digital Journey) ให้มีความรวดเร็วและไร้รอยต่อมากขึ้น โดยลูกค้าสามารถสมัครผ่านแอปพลิเคชัน KTC Mobile และทราบผลการอนุมัติพร้อมรับเงินได้ภายในเวลาเพียง 30 นาที
นอกจากนี้ยังมีการวางแผนปูพรมโปรโมชั่นผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 24 เดือน ร่วมกับพันธมิตรร้านค้ามากกว่า 2,000 แห่ง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าและโทรศัพท์มือถือ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและผ่อนหนักเป็นเบาให้กับผู้บริโภคในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
ในส่วนของสินเชื่อพี่เบิ้มจะยังคงเน้นการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีความมั่นคงทางการเงิน เช่น ข้าราชการและพนักงานประจำ ผ่านช่องทางสาขาของธนาคารกรุงไทยกว่า 900 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรักษาคุณภาพพอร์ตและควบคุมระดับหนี้เสีย (NPL)
นางรจนากล่าวว่า เคทีซีได้วางแผนระดมทุนผ่านเงินกู้ยืมระยะยาวและหุ้นกู้ประมาณ 12,000 ล้านบาทในปี 2569 เพื่อรองรับการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อและการลงทุนทางด้านไอทีอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่า ต้นทุนทางการเงินจะปรับลดลงประมาณ 15-20 basis point เนื่องจากหุ้นกู้ชุดเดิมที่กำลังจะครบกำหนดมีต้นทุนเฉลี่ยที่สูงถึง 3.41% ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน
ด้านการลงทุนนั้นเคทีซีตั้งเป้าคุมอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (Cost to Income Ratio) ไว้ที่ไม่เกิน 38% แต่จะพยายามบริหารจัดการให้อยู่ในระดับประมาณ 36% ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานในมิติของการจัดการหนี้เสียและการติดตามหนี้
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,160 วันที่ 25 - 27 ธันวาคม พ.ศ. 2568