เฟดชี้ชะตาทองคำคืนวันพุธนี้ ทองเสี่ยงแกว่งแรงทะลุ 66,000 บาท

09 ธ.ค. 2568 | 23:30 น.

ทองคำสัปดาห์นี้เผชิญความผันผวนสูงจากการประชุมเฟดและทิศทางสันติภาพรัสเซีย–ยูเครน GCAP แนะรอย่อซื้อใกล้แนวรับ 63,000-62,600 บาท พร้อมตั้ง Stop Loss เข้มงวด ท่ามกลางโอกาสดีดทดสอบโซน 64,800-66,000 บาท

KEY

POINTS

  • การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในคืนวันพุธนี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทิศทางราคาทองคำ
  • หากเฟดส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินหรือลดดอกเบี้ย จะเป็นแรงหนุนให้ราคาทองคำปรับขึ้น แต่หากคงนโยบายเข้มงวดจะกดดันราคาและทำให้เกิดความผันผวนสูง
  • นักวิเคราะห์ประเมินว่าราคาทองคำมีความเสี่ยงที่จะแกว่งตัวรุนแรง โดยมีโอกาสดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 66,000 บาท

นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ยังเคลื่อนไหวใกล้โซนสำคัญบริเวณ 4,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองไทยประมาณ 63,580 บาท (อิงอัตราแลกเปลี่ยนวันที่ 9 ธ.ค. 68 ที่ระดับ 31.85 บาท) โดยกำลังจับตาผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในคืนวันพุธนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางราคาทองคำรอบใหญ่

ล่าสุดตลาดได้ประเมินออกมาว่ามีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นเกือบ 90% และหากเฟดส่งสัญญาณผ่อนคลาย ทั้งในแง่ของการส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยและ Dot Plot ที่ยังคงคาดการณ์ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า จะส่งผลให้กลายเป็นแรงหนุนสำคัญที่ขับเคลื่อนราคาทองคำ

ขณะเดียวกันหากเฟดไม่ลดดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ จะส่งผลให้กลายเป็นปัจจัยลบที่กดดันราคาทองคำ และกระตุ้นให้เกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา โดยเฉพาะหาก 'เจอโรม พาวเวลล์' ประธานเฟดส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากกว่าที่ตลาดประเมินไว้

ทำให้ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวผันผวนรุนแรงในกรอบกว้างตลอดทั้งสัปดาห์โดยมีความเสี่ยงที่จะเกิด false break ดังนั้นจึงต้องเพิ่มความระมัดระวังและติดตามจังหวะอย่างรอบคอบ

นอกจากนี้ ตลาดกำลังจับตาความคืบหน้าของการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนอย่างใกล้ชิด ซึ่งมีประเด็นสำคัญที่ต้องหาข้อสรุป อาทิ เรื่องการจัดการทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัด และสถานะความชัดเจนของดินแดนฝั่งตะวันออก

โดยหากการเจรจาส่งสัญญาณสะดุด หรือมีกระแสข่าวเชิงลบออกมา ส่งผลให้จะกลายเป็นแรงหนุนต่อราคาทองคำให้ปรับขึ้นแรงสองเด้ง แต่หากทิศทางสันติภาพมีความชัดเจนในเชิงบวกและสามารถบรรลุข้อตกลงได้

ส่งผลให้ราคาทองคำอาจได้รับแรงกดดันเล็กน้อยในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และเป็นอีกปัจจัยที่เพิ่มความผันผวนของราคาทองคำในขณะนี้

สำหรับกลยุทธ์ในสัปดาห์นี้ทางฝ่ายวิเคราะห์ แนะนำรอย่อซื้อ โดยมีแนวรับสำคัญที่น่าจับตาบริเวณ 4,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 4,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองไทยประมาณ 63,000 บาท และ 62,600 บาท

โดยหากราคาย่อตัวลงมา แต่ยังสามารถยืนเหนือระดับ 4,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือราว 62,600 บาทได้ จะมีโอกาสดีดตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านใหญ่บริเวณ 4,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 4,380 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองไทยประมาณ 64,800 บาท และ 66,000 บาท อีกครั้ง

หากราคาดีดตัวแรงรับข่าวการประกาศดอกเบี้ยของเฟดและเข้าใกล้โซนแนวต้านดังกล่าว แนะนำให้นักลงทุนเน้นขายทำกำไรเป็นรอบมากกว่าการไล่ซื้อ เพื่อลดขนาดลงทุนก่อนการแถลงของ 'เจอโรม พาวเวลล์' เนื่องจากเป็นช่วงที่ตลาดจะผันผวนรุนแรง

และที่สำคัญควรวาง Stop Loss ทุกครั้ง โดยเฉพาะหากเกิดสัญญาณหลุดต่ำกว่า 4,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองไทยประมาณ 62,500 บาท ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนภาพระยะสั้นให้กลับมาเคลื่อนไหวในเชิงลบ