CMAN ทุ่ม 336 ล้านจ่อซื้อหุ้น 60% ใน BB สร้างโรงงานในอินโดนีเซีย

19 ต.ค. 2568 | 10:11 น.

CMAN ทุ่มงบ 339 ล้านบาทเตรียมซื้อหุ้น 60% ใน BB สร้างโรงงานผลิตปูนไลม์ขนาดใหญ่ในอินโดนีเซีย คาดแล้วเสร็จไตรมาส 2/69

KEY

POINTS

  • CMAN ประกาศทุ่มงบ 336 ล้านบาท เพื่อเข้าซื้อหุ้น 60% ในบริษัท PT Bukit Bunea (BB) ซึ่งเป็นเจ้าของเหมืองหินปูนในอินโดนีเซีย
  • มีแผนร่วมทุนกับ PT Citatah Tbk (CTTH) เพื่อสร้างโรงงานผลิตปูนไลม์ขนาดใหญ่บนเกาะสุลาเวสี กำลังการผลิตรวม 500,000 ตันต่อปี
  • การลงทุนครั้งนี้เป็นการขยายฐานการผลิตและเจาะตลาดอินโดนีเซียซึ่งมีความต้องการปูนไลม์สูงและมีศักยภาพในการเติบโต

นายอดิศักดิ์ เหล่าจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคมีแมน จำกัด (มหาชน) หรือ CMAN เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการซื้อหุ้นแบบมีเงื่อนไข และสัญญาร่วมทุน กับPT Citatah Tbk (“CTTH”) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งอินโดนีเซีย เพื่อเข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน คิดเป็นสัดส่วน 60% ใน PT Bukit Bunea (“BB”) 

ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ CTTH ด้วยมูลค่าเงินลงทุน 10.5 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 336 ล้านบาท โดยการเข้าลงทุนดังกล่าวอยู่ภายใต้เงื่อนไขบังคับก่อนหลายอย่างที่ต้องดำเนินการให้เป็นผลสำเร็จ และคาดว่าการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว จะเกิดขึ้นภายในไตรมาสที่ 2/69  

 

ทั้งนี้ BB เป็นเจ้าของสัมปทานเหมืองหินปูนเคมีคุณภาพสูงในเกาะสุลาเวสี ประเทศอินโดนีเซีย บนพื้นที่ 141 เอเคอร์ หรือ 353 ไร่ และ CTTH ดำเนินธุรกิจหลักในอุตสาหกรรมเหมืองและการผลิตหินอ่อนที่มีประสบการณ์มากกว่า 33 ปีในเกาะสุลาเวสี 

โดยภายใต้สัญญาดังกล่าว CMAN และ CTTH เห็นชอบร่วมกันที่จะสร้างโรงงานผลิตปูนไลม์ขนาดใหญ่ ที่มีกำลังการผลิตรวม 500,000 ตันต่อปี ตามแผนธุรกิจระยะกลาง ซึ่งจะเริ่มจากเฟส 1 กำลังการผลิตรวม 200,000 ตันต่อปี โดยการลงทุนในเฟส 1 คาดว่าจะใช้เงินลงทุน ประมาณ 25-30 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา และการลงทุนสำหรับกำลังการผลิตรวม 500,000 ตันต่อปี จะใช้เงินลงทุนมากกว่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา

สำหรับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ดังกล่าว ถือเป็นการขยายตลาดและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2–3 ปีข้างหน้าของ CMAN โดยอินโดนีเซียเป็นตลาดที่มีศักยภาพและกำลังเติบโต โดยมีความต้องการปูนไลม์มากกว่า 3 ล้านตันต่อปี และมีการนำเข้ากว่า 1 ล้านตันต่อปี ความได้เปรียบของโครงการนี้มาจากการผสานจุดแข็งระหว่างแหล่งหินปูนเคมีคุณภาพสูงต้นทุนถ่านหินที่ต่ำ ทำเลบนเกาะสุลาเวสี และเทคโนโลยีการผลิตระดับโลก ซึ่งทั้งหมดจะสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันระยะยาวในการเจาะตลาดทั้งในและต่างประเทศ 

นอกจากนี้ การลงทุนดังกล่าวยังสอดคล้องโดยตรงกับนโยบายของรัฐบาลอินโดนีเซียในการพัฒนาอุตสาหกรรมเหมืองแร่ช่วงปลายน้ำ (downstream industries) เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าของประเทศอีกด้วย

"บริษัทมุ่งที่จะสร้างเครือข่ายการผลิตที่มีคุณภาพสูง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลายในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก การเริ่มผลิตและจำหน่ายปูนไลม์ในอินโดนีเซียจะกลายเป็นประเทศที่ห้าของกลุ่มเคมีแมน ต่อจากประเทศไทย ออสเตรเลีย เวียดนาม และอินเดีย"