พิษเศรษฐกิจชะลอ  ดันหุ้นกู้ผิดนัด เลื่อนชำระหนี้ เฉียด 5 หมื่นล้านบาท

07 ต.ค. 2568 | 23:06 น.

ThaiBMA ชี้เศรษฐกิจชะลอทำพิษ ส่งผลหุ้นกู้ผิดนัด/เลื่อนกำหนดชำระพุ่ง 9 เดือนแรกปี 68 ยอดรวมเฉียด 5 หมื่นล้าน มั่นใจทั้งปี ยอดออกหุ้นกู้เอกชนระยะยาว ทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 8 แสนล้านบาท 

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA)เปิดเผยข้อมูลอันน่ากังวลเกี่ยวกับสถานการณ์หุ้นกู้ภาคเอกชนในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 โดยพบว่า หุ้นกู้ที่ผิดนัดชำระหนี้และเลื่อนกำหนดชำระมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสะท้อนถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจไทยที่ยังคงชะลอตัว 

จากข้อมูลพบว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 มีหุ้นกู้ที่ ผิดนัดชำระหนี้ คิดเป็นมูลค่ารวม 4,512 ล้านบาท จากผู้ออกจำนวน 6 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีมูลค่า 3,172 ล้านบาท จากผู้ออก 5 ราย

นอกจากนี้ ยังมีหุ้นกู้ที่ เลื่อนกำหนดชำระ เป็นมูลค่าสูงถึง 42,679 ล้านบาท จากผู้ออก 16 ราย ซึ่งก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีมูลค่า 37,963 ล้านบาท จากผู้ออก 17 ราย 

นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) เปิดเผยว่า แนวโน้มที่น่าเป็นห่วงนี้เป็นผลโดยตรงจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ยังคงชะลอตัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทต่างๆ แม้จะมีความหวังว่า หากรัฐบาลสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัวได้ สถานการณ์การผิดนัดหรือเลื่อนชำระหนี้อาจจะลดลง

นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) 

แต่ในปัจจุบันยังคงไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนนัก เนื่องจากตัวเลขคาดการณ์ GDP ของไทยยังคงถูกปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง 

อย่างไรก็ตาม ในแง่การออกตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาว(หุ้นกู้) ภายในช่วงสิ้นปีนี้ มี่นใจว่า จะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ระดับ 800,000 ล้านบาท หลังจากในช่วง 9 เดือนแรกของปี 68 มียอดออกแล้วประมาณ 640,002 ล้านบาท 

ประกอบกับเริ่มเห็นบริษัทขนาดใหญ่เข้ามาออกหุ้นกู้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงช่วงไตรมาส 4/68 คาดว่า จะมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนด(รีไฟแนนซ์) อีก 218,777 ล้านบาท  

ทั้งนี้ ช่วงเดือนตุลาคมนี้คาดว่า จะมีผู้ออกหุ้นกู้มูลค่ารวมกว่า 100,000 ล้านบาท หลังจากปัจจุบันมีบริษัทที่ยื่นขอเสนอขายหุ้นกู้แล้วประมาณ 74,770 ล้านบาท โดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นไทยที่หันมาออกหุ้นกู้จำนวนมาก อาทิ GULF มูลค่าการออกรวม 30,000 ล้านบาท, SCC มูลค่า 25,000 ล้านบาท และ BTS มูลค่า 12,000 ล้านบาท 

ขณะที่ในช่วงไตรมาส 3/68 ที่ผ่านมาพบว่า มีมูลค่าการออกหุ้นกู้เร่งตัวขึ้นกว่า 241,182 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากไตรมาส 1-2 ของปีนี้ที่ทำได้ราว 203,486 ล้านบาท และ 195,334 ล้านบาท ตามลำดับ โดย 5 กลุ่มที่มีมูลค่าการออกหุ้นกู้มากสุดคือ กลุ่มพลังงาน,การเงิน,อสังหาฯ,ค้าปลีก และอาหาร หรือคิดเป็นสัดส่วน 61% ของมูลค่ารวม  

“เดือนตุลาคมนี้คาดว่า จะเห็นการออกหุ้นกู้ทะลุ 1 แสนล้านบาท เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ซึ่งเอื้อต่อการระดมทุนในตลาดหุ้นกุ้มากขึ้น โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ที่แห่มาออกหุ้นกู้ในช่วงนี้ เนื่องจากได้เปรียบทั้งบรรยากาศการลงทุนและต้นทุนด้านดอกเบี้ยที่ลดลง” นางสาวอริยากล่าว   

ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)กล่าวว่า ช่วง 3 ไตรมาสแรกปีนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตราสารหนี้ไทย 29,038 ล้านบาท โดยเป็นการซื้อสุทธิในไตรมาส 1 และ 2 จำนวน 32,329 ล้านบาท รวมกับการขายสุทธิ 3,291 ล้านบาทในไตรมาส 3 ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 3/68 นักลงทุนต่างชาติมีการถือครองตราสารหนี้ไทย 8.8 แสนล้านบาท คิดเป็น 5%ของมูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทย  

ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)

ทั้งนี้ ตราสารหนี้ไทยที่ต่างชาติถือครองมีอายุคงเหลือเฉลี่ยลดลง 7.9 ปี จาก 8.7ปีเมื่อสิ้นปี 67 รวมถึงมองว่า เงินจากนักลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ไทย ไม่ใช้นัยสำคัญที่ทำให้ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้น เพราะมีสัดส่วนค่อนข้างน้อย

 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,138 วันที่ 9 - 11 ตุลาคม พ.ศ. 2568