ทองคำทุบสถิติใหม่! เฟดถูกการเมืองสหรัฐฯครอบงำ หนุนราคาทองทะลุ 55,000 บาท

10 ก.ย. 2568 | 23:30 น.

ราคาทองคำยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง จากแรงหนุนเฟดจ่อปรับลดดอกเบี้ย ค่าเงินดอลลาร์อ่อน และบอนด์ยีลด์ร่วง เสริมความน่าสนใจทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นักลงทุนจับตาโอกาสขึ้นทดสอบระดับ 3,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์

KEY

POINTS

  • ความกังวลเรื่องความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จากแรงกดดันทางการเมือง เป็นปัจจัยหลักที่หนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
  • ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ที่อ่อนแอกว่าคาดการณ์ ทำให้ตลาดเชื่อมั่นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นผลดีต่อราคาทองคำที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
  • ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่าอาจทะลุระดับ 3,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยที่ประมาณ 55,000 บาท

นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ (11 - 14 ก.ย. 68) ยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง หลังจากทะยานทำสถิติสูงสุดใหม่ที่เหนือระดับ 3,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากรายงานการจ้างงานสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ตลาดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกลางเดือนนี้ ซึ่งความคาดหวังดังกล่าวจะดึงดูดกระแสเงินลงทุนไหลเข้าสู่ทองคำ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ได้เปรียบในช่วงดอกเบี้ยขาลง

ส่วนปัจจัยที่ยังต้องจับตา โดยเฉพาะความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐฯ เรื่องการโจมตีและแรงกดดันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อเฟด ซึ่งทำให้ตลาดกังวลถึงเสถียรภาพและความเป็นอิสระของธนาคารกลางมากขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนจับตาคำตัดสินสำคัญเกี่ยวกับการถอดถอนผู้ว่าการเฟด ลิซา คุก

หากสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจะยิ่งเป็นการตอกย้ำแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs ได้ประเมินว่า หากเฟดสูญเสียความเป็นอิสระ ราคาทองคำอาจพุ่งแตะเกือบ 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์

นอกจากนี้ ตลาดทองคำได้รับแรงหนุนต่อเนื่อง จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ร่วงลงอย่างหนัก ส่งผลให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำลดลง และเมื่อบวกเข้ากับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ และการค้าโลกที่ยังไม่คลี่คลาย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวหนุนให้ภาพรวมทองคำยังเป็นบวก โดยเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจทั้งในระยะกลางถึงระยะยาว

จากปัจจัยที่กล่าวไปข้างต้น ทางฝ่ายจึงแนะนำกลยุทธ์ รอย่อตัวเข้าซื้อที่ 3,555 / 3,525 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากภาพรวมทองคำยังเป็นบวก โดยตลาดจับตาท่าทีดอกเบี้ยเฟด รวมถึงข้อมูลเงินเฟ้อที่จะประกาศเพิ่มเติม

หากท่าทีดอกเบี้ยเฟดยังคงส่งสัญญาณไปในทิศทางผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน ทำให้คาดว่าราคาทองคำมีโอกาสขึ้นทดสอบโซนต้าน 3,630 - 3,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยประมาณ 54,800 - 55,000 บาท

ทองคำทุบสถิติใหม่! เฟดถูกการเมืองสหรัฐฯครอบงำ หนุนราคาทองทะลุ 55,000 บาท

และหากยังเบรกโซนนี้ขึ้นไปได้ จะเป็นการเปิดทางสู่ 3,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ต่อไป หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยประมาณ 55,500 บาท ดังนั้น นักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะและรอเล่นสั้น อาจพิจารณาการย่อตัวในช่วง 1-2 วันแรกของสัปดาห์

อย่างไรก็ตาม หากว่าราคาทองคำย่อตัวลงแต่ไม่หลุดแนวรับระยะสั้น 3,555 / 3,525 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ทยอยเข้าซื้อเก็บเพื่อเล่นรอบ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยอาจอยู่ประมาณ 53,850 / 53,600 บาท