'ดอกเบี้ยเฟด-ราคาทอง' หนุนบาทหลุด 32 บาท แข็งสุดรอบ 4 ปี

10 ก.ย. 2568 | 06:12 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ก.ย. 2568 | 06:12 น.

เงินบาทปรับตัวแข็งค่ารวดเร็วหลุดระดับ 32 บาท/ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ อ่อนแอ คาดเฟดลดดอกเบี้ยหนุนแรงซื้อทองคำในประเทศ ขณะที่ธปท.จับตาแนวโน้มค่าเงินระยะสั้น

เงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็ว หลุดระดับ 32 บาท/ดอลลาร์ โดยล่าสุดเมื่อเวลา 11.10น.(9 ก.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.65 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการแข็งค่าต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ ที่ถือว่าเงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 4 ปี และยังเป็นการแข็งค่านำสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคด้วย 

ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ออกมาส่งสัญญาณว่า ธปท.ติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด หลังเงินบาทแข็งค่าขึ้น 7% จากต้นปี 2568 และเข้าดูแลความผันผวนของค่าเงิน เพื่อลดผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ และยังอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางการในการลดผลกระทบจากราคาทองคำต่อค่าเงินบาท

น.ส.รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวางแผนโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา(BAY)เปิดเผยว่า เงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็วเป็นผลจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เดือน ส.ค.68 ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาด

จึงทำให้ตลาดมีความมั่นใจมากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในสัปดาห์หน้า รวมทั้งในการประชุมอีก 2 ครั้งที่เหลือของปีนี้ด้วย โดยคาดว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยลงครั้งละ 0.25%

น.ส.รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวางแผนโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา(BAY)

ขณะเดียวกัน ราคาทองคำโลกที่ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการ (All time high)ตลอดเกือบทั้งสัปดาห์ ยังเป็นปัจจัยเข้ามาหนุนให้เงินบาทแข็งค่าเร็วและยังแข็งค่านำสกุลเงินอื่นในภูมิภาค 

เมื่อราคาทองคำพุ่งขึ้นต่อเนื่อง จะทำให้ผู้ค้าทองในประเทศ ส่งออกทองคำและนำเงินดอลลาร์ที่ขายได้มาแลกเป็นเงินบาท ทำให้เงินบาทแข็งค่าไปค่อนข้างเร็วกว่าสกุลเงินอื่นในภูมิภาค 

สำหรับแนวโน้มระยะสั้น มองว่า เงินบาทในสัปดาห์นี้มีโอกาสแข็งค่าต่อได้อีก โดยให้แนวรับไว้ที่ 31.50 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งหากเงินบาทหลุดลงไปทดสอบที่ระดับ 31.50 บาท/ดอลลาร์ได้ หลังจากนั้นอาจจะสลับกลับมาอ่อนค่าขึ้นบ้างได้ในช่วงสัปดาห์หน้า 

“ระยะสั้น เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าต่อได้ เพราะจากการที่นิ่งมา 2 เดือนแล้วหลุดกรอบลงมา คิดว่าแนวโน้มในระยะสั้น น่าจะมีโอกาสจะแข็งค่าได้ต่อ แต่จากที่มองว่า แบงก์ชาติมีสัญญาณการเข้ามาดูแลด้วย แต่ก็คงไม่สามารถฝืนกระแสบาทแข็งค่า จากการที่ราคาทองคำขึ้นไปเยอะได้” น.ส.รุ่ง กล่าว 

สำหรับปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะการมีรัฐบาลชุดใหม่นั้น น.ส.รุ่งมองว่า ปัจจัยการเมืองในประเทศ มีผลค่อนข้างจำกัดต่อทิศทางของค่าเงินบาท เห็นได้จากที่ผ่านมา การที่เงินบาทจะแข็งค่าหรืออ่อนค่านั้น ส่วนใหญ่จะสะท้อนจากปัจจัยต่างประเทศมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการค้าของสหรัฐ, การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด รวมทั้งราคาทองคำในตลาดโลก 

ทั้งนี้ อาจจะต้องรอติดตามการประชุม FOMC ในสัปดาห์หน้า เพราะหากธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จริง ก็อาจจะทำให้ตลาดมีการขายเงินบาทเพื่อทำกำไร แล้วกลับไปถือดอลลาร์ ซึ่งจะมีผลให้เงินบาทมีโอกาสกลับมาอ่อนค่าได้ในสัปดาห์หน้า 

อย่างไรก็ตาม หากฝ่ายการเมืองของสหรัฐฯ กดดันให้เฟดปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง ทั้งๆ ที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังลงได้ช้า ก็จะเป็นภาวะที่เงินดอลลาร์สหรัฐ อาจจะถูกเทขายอย่างต่อเนื่อง เพราะตลาดจะมองว่า ไม่ใช่การตัดสินใจทำนโยบายการเงินบนพื้นฐานของเศรษฐกิจ แต่ถูกแรงกดดันทางการเมืองทำให้ต้องลดดอกเบี้ยนโยบาย

ถ้าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังสูง และเฟดลดดอกเบี้ยนโยบายต่อไปเรื่อย ๆ ราคาทองคำตลาดโลกก็จะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และก็จะวนกลับมาทำให้เงินบาทแข็งค่าได้อีก

 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,130 วันที่ 11 - 13 กันยายน พ.ศ. 2568