ราคาทองคำโลกพุ่งต่อ ทำสถิติใหม่ ดอลลาร์อ่อน-ตลาดลุ้นเฟดลดดอกเบี้ย

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องในวันอังคารที่ 9 ก.ย. 68 แซงสถิติเมื่อวาน โดยได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ลดลง ซึ่งสะท้อนถึงความคาดหมายที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางเดือนนี้

ทองคำตลาดสปอตปรับตัวเพิ่ม 0.5% แตะ 3,651.96 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่สัญญาทองคำล่วงหน้าสำหรับส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 0.4% ไปอยู่ที่ 3,690.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ Tim Waterer นักวิเคราะห์อาวุโสของ KCM Trade ชี้ว่าหาก Fed ปฏิบัติตามความคาดหมายของตลาดในการปรับลดดอกเบี้ยหลายครั้ง ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อได้อีก

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดสะท้อนว่าตลาดแรงงานเริ่มอ่อนตัว การจ้างงานใหม่ในเดือนสิงหาคมลดลงอย่างมากและอัตราว่างงานพุ่งไปที่ 4.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบสี่ปี ส่งผลให้โอกาสที่ Fed จะปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น

นักลงทุนกำลังประเมินความน่าจะเป็นของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดฐานไว้ที่ 89.4% และโอกาสปรับลดใหญ่ 50 จุดฐานอยู่ที่ 10.6% ตามเครื่องมือ FedWatch ของ CME Group อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงกดดันดอลลาร์และผลตอบแทนพันธบัตร ทำให้ทองคำซึ่งไม่ได้ให้ผลตอบแทนดอกเบี้ย กลายเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจมากขึ้น

ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบเจ็ดสัปดาห์ ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบห้าเดือน ทำให้ทองคำยิ่งมีแรงดึงดูดสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น ๆ

นักลงทุนยังจับตาข้อมูลราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ ที่จะประกาศวันพุธ และข้อมูลราคาผู้บริโภควันพฤหัสบดี เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับนโยบายการเงินของ Fed Waterer ระบุว่า หากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ Fed อาจปรับนโยบายไปทางผ่อนคลายมากขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำมีโอกาสขึ้นไปแตะระดับ 3,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ปีนี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแล้ว 38% หลังจากปีที่แล้วพุ่งขึ้น 27% แรงหนุนมาจากดอลลาร์อ่อน การสะสมทองคำของธนาคารกลางนโยบายการเงินผ่อนคลาย และความไม่แน่นอนในตลาดโลก

โลหะมีค่าอื่น ๆ ก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยราคาซิลเวอร์ตลาดสปอตเพิ่ม 0.1% ไปอยู่ที่ 41.36 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แพลตตินัมเพิ่ม 0.8% อยู่ที่ 1,393.95 ดอลลาร์ ขณะที่แพลเลเดียมปรับขึ้น 0.8% แตะ 1,142.73 ดอลลาร์