ราคาทองทะยานต่อ รับแรงหนุนภาวะตลาดโลกที่ยังอึมครึม ลุ้นแตะ 52,800 บาท

24 ก.ค. 2568 | 04:40 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ก.ค. 2568 | 04:40 น.

GCAP GOLD ชึ้ใกล้เส้นตายภาษีทรัมป์ กดดันตลาดโลก-ยุโรปเข้าโหมดตึงเครียด ชูกลยุทธ์รอย่อเก็บทองคำบริเวณ 51,600 - 51,200 บาท

นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ทิศทางราคาทองคำสัปดาห์นี้ (24 - 27 ก.ค.68) ยังคงได้รับแรงหนุน จากความไม่แน่นอนด้านการค้า หลังจากสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรป ในอัตราที่สูงถึง 30% หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าใหม่ได้ทันก่อนเส้นตายในวันที่ 1 สิงหาคมนี้

และท่ามกลางบรรยากาศที่ตึงเครียดมากขึ้น ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ของ EU เริ่มมีการส่งสัญญาณตอบโต้ ทำให้การเจรจาเต็มไปด้วยแรงกดดัน ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าวจึงกลายเป็นแรงหนุนให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
 
ขณะเดียวกันนักลงทุนยังต้องติดตามเกี่ยวกับจุดยืนของประเทศคู่ค้ารายอื่น ๆ ได้แก่ เม็กซิโก แคนาดา อินเดีย และบราซิล หลังจากผู้นำสหรัฐฯ ส่งจดหมายแจ้งเตือนถึงการเตรียมเรียกเก็บภาษีในอัตรา 20-50% เกิดการสร้างแรงกดดันต่อการค้าโลกเพิ่มขึ้นอีก

ทำให้ในขณะนี้ตลาดโลกเกิดภาวะความไม่แน่นอน ประกอบกับความคืบหน้าในการเจรจายังมีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใกล้ถึงกำหนดเส้นตายวันที่ 1 สิงหาคมนี้ จึงคาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจกระตุ้นแรงซื้อทองคำในระยะสั้น

ราคาทองทะยานต่อ รับแรงหนุนภาวะตลาดโลกที่ยังอึมครึม ลุ้นแตะ 52,800 บาท

ดังนั้น ทางฝ่ายวิจัย GCAP Gold จึงประเมินกลยุทธ์การลงทุนทองคำในสัปดาห์นี้ไว้ว่า ราคายังเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น โดยมีเป้าหมายการทดสอบแนวต้านที่ 3,450 / 3,500 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งในระหว่างทางอาจเกิดการย่อตัวเพื่อพักฐานระยะสั้น

โดยมีแนวรับที่น่าจับตาสำหรับการทยอยเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นอยู่ที่ระดับ 3,380 ดอลลาร์/ออนซ์ และ 3,340 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยประมาณ 51,600 – 51,200 บาท

หากราคาย่อลงมาในโซนดังกล่าว นักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะสามารถใช้จังหวะนี้ในการเข้าซื้อสะสมเพิ่มเติมได้ โดยมีเป้าหมายการทำกำไรระยะสั้นที่ 3,450 ดอลลาร์/ออนซ์ และ 3,500 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยประมาณ 52,350 – 52,800 บาท